เมื่อวันที่ 8 ก.ย. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงความร่วมมือบูรณาการหน่วยร่วม โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ปป.1 พื้นที่ภาคกลาง ปพ. ชุดปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับ ศอ.ปส.ทอ. และ ขกท.ภาค 1 ทำการจับกุมผู้ต้องหานักค้ายาเสพติดเครือข่ายสังคมออนไลน์ 2 ราย คือ นายปองพล (สงวนนามสกุล) และ น.ส.ชาลิณี (สงวนนามสกุล) พร้อมของกลางไอซ์ 23 กรัม ในซองพลาสติกแบ่งบรรจุ และเครื่องชั่งดิจิทัล ในฐานความผิด ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมในพื้นที่เขตดอนเมือง กทม. พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากตนได้รับรายงานจากนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบยาเสพติด รายงานว่า สำนักปราบปรามยาเสพติด ชุดปฏิบัติการพื้นที่ภาคกลาง ได้ดำเนินการสืบสวนพฤติการณ์นักค้ายาเสพติดเครือข่ายสังคมออนไลน์ (X) พบว่า มีการโพสต์ให้เข้ากลุ่มแอปพลิเคชัน (Line open chat) เพื่อซื้อขายยาเสพติด ตนจึงสั่งการให้สืบสวนพิสูจน์ทราบเพื่อจับกุมผู้ขายยาเสพติดรายดังกล่าวทันที ต่อมาวันที่ 5 ก.ย. นายปฤณ ผอ.สำนักปราบยาเสพติด ได้มอบหมายชุดปฏิบัติการ ปป.1 พื้นที่ภาคกลาง ปพ. ชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ศอ.ปส.ทอ. และ ขกท.ภาค 1 สืบสวน

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า กระทั่งทราบว่า ผู้ขายยาเสพติดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ คือ นายปองพล ถัดมาในวันที่ 6 ก.ย. เจ้าหน้าที่สืบสวนและพิสูจน์ทราบที่พักอาศัยของนายปองพล ทราบว่าพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมในพื้นที่เขตดอนเมือง กทม. จึงจัดชุดปฏิบัติเฝ้าสังเกตการณ์พื้นที่พักอาศัยของบุคคลดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์พบนายปองพล นำกล่องกระดาษสีน้ำตาล เตรียมมาส่งให้กับพนักงานรับ-ส่งพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบไอซ์ 3 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุ จากนั้นจึงนำตัวนายปองพลไปขยายผลตรวจค้นห้องพักในคอนโดฯ และจับกุม น.ส.ชาลิณี แฟนของนายปองพล พร้อมของกลางไอซ์ 20 กรัม และเครื่องชั่งดิจิทัลภายในห้องพัก และตรวจยึดทรัพย์สิน ทองคำ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมมูลค่าประมาณ 800,000 บาท

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ในปัจจุบันพบว่าการซื้อขายยาเสพติดผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ และส่งยาเสพติดทางพัสดุภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักค้ายาเสพติดรายย่อยและกลุ่มผู้เสพสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกในการซื้อขายยาเสพติด และยังสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหรือจับกุมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำนักงาน ป.ป.ส. จะทำการสืบสวนผู้โพสต์ขายยาเสพติดจากเพจหรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ทราบ ติดตามและจับกุมตัวผู้ขาย หรือผู้โพสต์ภาพหรือข้อความในลักษณะโฆษณายาเสพติดมาดำเนินคดีอย่างจริงจัง รวมทั้งจะประสานงานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการขอให้มีการระงับการเผยแพร่หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Media)

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จึงขอเน้นย้ำและฝากเตือนไปยังผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแลสอดส่องบุตรหลานในความปกครองของท่านที่มีการใช้อินเทอร์เน็ต การโพสต์ข้อความ หรือการใช้สื่อสังคมออนไลน์ไปในทางที่ถูกต้อง และช่วยแนะนำให้ความรู้ถึงโทษของการกระทำความผิด เพราะผู้ที่โพสต์ข้อความทั้งในเชิงการขายยาเสพติดให้โทษและการยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเสพยาเสพติด การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายซึ่งจะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด.