การพัฒนาความฉลาดอย่างยั่งยืนที่ว่านี้ ไม่เพียงแต่จำเป็นสำหรับนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ หรือวิศวกรเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการ การเรียนรู้ที่จะคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในชุมชน เหล่านี้ถือเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการปรับตัวดำรงชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมาใช้ในการแก้ปัญหา เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น พัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน แต่กว่าที่จะบรรลุเป้าหมายได้นั้น จะต้องมีการส่งเสริมเรื่องดังกล่าวควบคู่ไปกับการอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

ดังที่ ‘สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย’ (UNGCNT – UN Global Compact Network Thailand) ในฐานะเครือข่ายของภาคธุรกิจที่มุ่งมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืน มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ได้นำหลักการของ ‘Sustainable Intelligence’ ไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวัน โดยมุ่งเน้นที่ 10 หลักการสากลของสหประชาชาติ ซึ่งรวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน แรงงาน การสิ่งแวดล้อม และการต่อต้านคอร์รัปชัน

ดร. ธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กล่าวในเวทีเสวนา Sustrends 2025 ว่า สมาคมได้มีแนวทางที่ส่งเสริม Sustainable Intelligence ในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้วยการสนับสนุนให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา ร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน อาทิ พลังงานสะอาด การจัดการขยะ การเกษตรอัจฉริยะ และเทคโนโลยีเพื่อสังคม, สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มให้ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงร่วมมือกันดำเนินโครงการที่ส่งเสริม Sustainable Intelligence, ส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืน ด้วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยให้ความสำคัญกับการประเมินผลกระทบทางสังคม (Social Impact Assessment),

พัฒนาบุคลากร ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสมาชิกและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความสำคัญของ Sustainable Intelligence และผลกระทบที่เกิดขึ้น และส่งเสริมให้มีการนำความรู้และทักษะในการนำไปประยุกต์ใช้, ส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูล โดยกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบความโปร่งใสขององค์กร และส่งเสริมการพัฒนาเครื่องมือและทรัพยากร อาทิ คู่มือแนวทางปฏิบัติ กรณีศึกษา หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกสามารถนำไปใช้ได้จริง

“การส่งเสริม Sustainable Intelligence เป็นเรื่องที่ท้าทายแต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย เพื่อให้เราสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม โกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ตั้งแต่การผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และสนับสนุนนวัตกรรม โดยอาศัยร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ” ดร. ธันยพร กล่าว

นอกจากเรื่องการส่งเสริมการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้แล้ว ดร. ธันยพร ยังกล่าวถึงประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน อย่าง ‘Inner Development Goals’ (IDGs) หรือ ‘เป้าหมายการพัฒนาภายใน’ โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากภายใน ถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน เมื่อบุคคลมีความเข้าใจตนเอง มีจิตสำนึกที่ดี และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ก็จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้

แม้คำว่า ‘inner development goals’ อาจไม่ได้เป็นคำศัพท์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการพัฒนาอย่างเป็นทางการ ทว่าแนวคิดดังกล่าวนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาตนเองและสังคม โดยทั่วไป เป้าหมายการพัฒนาภายในหมายถึงการตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ อารมณ์ สติปัญญา หรือทักษะต่างๆ เพื่อให้เราสามารถเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้อื่นและสังคมได้

แล้วสงสัยไหมว่า เป้าหมายการพัฒนาภายใน (IDGs) เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างไร? คำตอบคือIDGs จะดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จริงๆ แล้วมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับการพัฒนาที่ยั่งยืน นั่นก็เพราะการเปลี่ยนแปลงจะต้องเริ่มต้นจากภายใน: เมื่อบุคคลหนึ่งๆ พัฒนาตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีจิตสำนึกที่ดี และเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างตนเองกับผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม ก็จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้, การสร้างสังคมที่ยั่งยืน: เมื่อมีคนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง ก็จะส่งผลให้เกิดสังคมที่มีความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุข และมีความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน,

การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ: ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคม และปัญหาเศรษฐกิจ ล้วนมีต้นตอมาจากการกระทำของมนุษย์ การพัฒนาจิตสำนึกและความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลจึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ, การสร้างความยืดหยุ่น: การพัฒนาตนเองให้มีความแข็งแกร่งทางจิตใจและอารมณ์ จะช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน: การพัฒนาตนเองเพื่อให้มีความเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น จะช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การสร้างความร่วมมือ และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

“การพัฒนาภายในและการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน การพัฒนาภายในเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างบุคคลที่มีคุณภาพ ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน การทำงานเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนก็จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาภายในของบุคคลให้เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน” ดร. ธันยพร กล่าวทิ้งท้าย