เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวท้อง ถูกสามีทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียวในโรงแรม แล้วมีอาการวิงเวียนศีรษะจะอาเจียน เหตุเกิดภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.จำลอง ทองเฟื่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจ ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.เมย์ อายุ 33 ปี ชาว อ.เมือง จ.เชียงราย ยืนร้องไห้ให้ข้อมูลกับตำรวจ ว่า ได้นั่งรถกระบะมากับสามีชื่อนายจ็อบ อายุ 32 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี จากบ้านสามีที่ ต.นาพู่ เมื่อ 3 วันก่อน เมื่อมาถึงเขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้ถูกสามีขู่ว่าจะให้ลากลงจากรถหรือลงไปเอง ตนจึงจำใจลงมา แล้วมาเปิดห้องพักโรงแรมดังกล่าวได้ 3 คืนแล้ว ตนท้องได้ 2 เดือน มีอาการเวียนหัวคลื่นไส้ ไม่มีเงินติดตัว อยากให้ตำรวจช่วยตามสามีมาเจรจา
น.ส.เมย์ เล่าทั้งน้ำตาว่า รู้จักกับนายจ็อบ ทางเฟซบุ๊ก ตกลงคบหากัน แล้วเขาชวนมาอยู่ที่บ้านแม่เขาที่ ต.นาพู่ ตนมาอยู่อุดรฯ ได้เกือบ 1 ปีแล้ว ตนและนายจ็อบได้ทำงานเป็นคนส่งนมเปรี้ยว ทำงานได้สักพักก็เปลี่ยนงาน มาทำงานส่งพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ระหว่างที่อยู่ด้วยกันที่บ้านสามี ก็มีปัญหา แม่สามีรวมถึงญาติพี่น้องเขาไม่ค่อยชอบตน หาว่าตนสร้างหนี้ สร้างปัญหาให้สามี แม่สามีโทษว่าตนสร้างหนี้ บอกตนว่าต้องใช้หนี้ 3,700 บาท ที่เกิดขึ้นตอนทำงานส่งนมเปรี้ยว ครอบครัวเขาไม่เอาตนแล้ว เขาไล่ออกจากบ้าน
“ก่อนออกมาจากบ้าน สามีบอกว่าจะพามาปิดบัญชีธนาคารของสามี เนื่องจากแม่ไม่พอใจเพราะปัญหาเรื่องเงิน เมื่อมาถึงถนนแถวหน้าโรงแรม สามีก็ไล่ลงรถ เขาบอกถ้าไม่ไปจะลากลงไปเอง เมื่อลงมาแล้วหนูก็ไม่รู้จะไปไหน ก็ใช้เงินที่อยู่มาเปิดห้องพัก จากนั้นก็โทรติดต่อสามีไม่ได้ มาถึงเย็นวันนี้หนูไม่มีเงินแล้ว ญาติพี่น้อง เพื่อนหรือคนรู้จักที่นี่ก็ไม่มีสักคน ไร้ทางออกแล้ว ไม่นึกว่าเขาจะมาทิ้งกันแบบนี้ คนทั้งคน รวมถึงลูกในท้อง ก็ยังทิ้งกันได้ลงคอ อยากให้ช่วยติดต่อสามีหรือแม่สามี ให้มาเจรจากันให้รู้เรื่อง อยากให้เขาออกมารับผิดชอบแบบลูกผู้ชาย เพราะหนูยังไม่อยากกลับไปที่เชียงราย แม่ยังไม่รู้เรื่อง กลัวแม่จะด่า” น.ส.เมย์ เล่าด้วยความอัดอั้นใจ
จากนั้นตำรวจได้พา น.ส.เมย์ ไปทำการพูดคุยเพิ่มเติมที่โรงพัก โดยใช้โทรศัพท์ของตำรวจโทรไปยังเบอร์แม่สามี หรือเบอร์แม่นายจ็อบ เมื่อโทรไปก็เป็นเสียงของนายจ็อบ รับสาย ตำรวจจึงบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งตัวนายจ็อบ สับสนอยู่ว่าจะเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แต่ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า ยังไม่มั่นใจว่า น.ส.เมย์ ท้องจริงหรือไม่ ยังไม่เคยพาไปตรวจที่โรงพยาบาล ไปแต่ รพ.สต. ใกล้บ้าน น.ส.เมย์ สร้างเรื่องให้ครอบครัวมาตลอด เป็นเรื่องใหญ่แถวบ้าน แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก ตนบอกให้เขากลับไปหาแม่ที่เชียงราย เขาก็ไม่ยอม ทั้งที่แม่เขาเองก็อยากให้กลับไปหาบ้าง
นายจ็อบ เล่าผ่านโทรศัพท์อีกว่า อยู่ด้วยกันก็มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน อยู่ด้วยก็มีแต่ด่ากัน ถ้าเขาท้องจริง ทำไมถึงยังกินเหล้าอยู่ บางวันซื้อมากิน 2 ขวด 3 ขวด เป็นแบบนี้อยู่ตลอด ตนไม่มีอะไรจะพูดกับเขาอีกแล้ว ระหว่างนั้น น.ส.เมย์ ก็แย้งว่าเคยกินจริง แต่เลิกกินแล้ว จากนั้นทั้ง 2 คนก็ได้เจรจากันผ่านโทรศัพท์ มีการตัดพ้อต่อว่ากันไปมา นายจ็อบ ยังไม่เชื่อว่า นส.เมย์ ท้อง ซึ่งไม่สามารถสรุปได้ตามความต้องการของแต่ละฝ่าย สักพักพี่สาวนายจ็อบ ก็สลับมาคุยกับตำรวจ ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า น.ส.เมย์ เป็นคนขี้โกหก สร้างปัญหาให้สามีและครอบครัว พวกตนบอกให้กลับบ้าน จะส่งค่ารถ เขาก็ไม่กลับ ตำรวจไม่ต้องคุยอะไรอีกแล้ว
เบื้องต้นตำรวจได้นัดหมายให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจากันอีกครั้งที่ สภ.เมืองอุดรธานี ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาทางออกและหาบทสรุปให้กับทั้งคู่ โดยตำรวจได้ปลอบใจ น.ส.เมย์ และจะพากลับไปส่งที่โรงแรมอีกครั้ง เนื่องจากยังเหลือวันพักอีก 1 คืน ให้สงบสติอารมณ์ คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น และแนะนำให้โทรศัพท์ติดต่อญาติที่เชียงราย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน.