แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีก เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจค้าปลีกในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โซนภาคกลาง ภาคตะวันออกและตะวันตก ที่มีปัจจัยบวกคือ มีโรงงานอุตสาหกรรม เกษตรกรรม สวนผลไม้ ถัดมาคือภาคเหนือที่มีการท่องเที่ยว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ฟื้นตัวช้ากว่าภาคอื่นๆ โดยเฉพาะร้านค้าจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และเอสเอ็มอี ทำให้เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือน่ากังวลมากสุดในรอบ 30 ปี จากกำลังซื้อของผู้บริโภคค่อนข้างเบาบาง
ฉะนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการจึงเร่งจัดโปรโมชั่นสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายภายในไตรมาส 3
“จะเห็นได้ว่าค้าปลีกและการบริการในครึ่งแรกของปี 2567 ฟื้นตัวช้าแบบกระจุกตัว กลุ่มค้าปลีกประเภทห้างสรรพสินค้า แฟชั่นความงาม ไลฟ์สไตล์ ขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับค้าปลีกกลุ่มอื่นๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อในเมืองและซูเปอร์มาร์เก็ตที่สาขาตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคกลางจะขยายตัวได้เล็กน้อย ส่วนที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอย่างภาคเหนือและภาคใต้จะทรงตัว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลงเล็กน้อย กลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต กลุ่มค้าส่งค้าปลีกภูธร ยังคงเผชิญความยากลำบากอยู่”
แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีก ยังกล่าวว่า จากปัญหาธุรกิจค้าปลีกปีนี้ชะลอตัว ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการเริ่มออกมาจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อกันอย่างรุนแรง
ทั้ง “ค่ายบิ๊กซี” จัดแคมเปญ ลุ้นช้อปฟรี ตามมาด้วยเซอร์ไพร้ส์ครั้งใหญ่ของ “แม็คโคร” ให้ลูกค้าลุ้นชิงโชคทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถกระบะ และรถไฟฟ้า เมื่อซื้อครบตามเงื่อนไขระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน
นอกจากนี้ ยังมี “ท็อปส์” ที่กำลังแจกสติกเกอร์สูงสุด 20% ให้ลูกค้าเลือกว่าจะนำไปลดสินค้าไหนที่ตัวเองอยากซื้อ เป็นกลยุทธ์ที่ต้องการกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้าต่อแคมเปญ ด้าน “โลตัส” ใช้กงยูดาราเกาหลีมาร่วมกิจกรรมฉลอง 30 ปี เพื่อสร้าง brand awareness ให้กับแบรนด์ และ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่ปีนี้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแคมเปญ “แสตมป์เสน่ห์ไทย ใครๆ…ก็หลงรัก” มาในธีม โดราเอมอนที่เข้ากับแหล่งท่องเที่ยว 77 จังหวัด
นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟูด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์ ได้จัดแคมเปญ “แปะปุ๊บลดปั๊บ ลดเลยตามใจคุณ” เป็นปีที่ 3 หลังจากประสบความสำเร็จกับแคมเปญนี้อย่างดีในปี 2020 และ 2021 ด้วยตัวเลขยอดขายในช่วงแคมเปญที่เติบโตถึงสองหลัก
“ท็อปส์ได้นำแคมเปญโปรโมชั่นสติกเกอร์ส่วนลด กลับมาจัดอีกครั้งในปีนี้ โดยแนวคิดในการพัฒนาแคมเปญ “แปะปุ๊บลดปั๊บ ลดเลยตามใจคุณ” มาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ อินไซด์ของลูกค้า และการพยายามพัฒนาสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดในมุมมองใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด”
โดยที่ แคมเปญ “แปะปุ๊บลดปั๊บ ลดเลยตามใจคุณ” จัดจนถึงวันที่ 17 กันยายนนี้ ลูกค้าท็อปส์สามารถร่วมสนุกและใช้ส่วนลดได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน แกะ-แปะ-ลด และ เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิก The1 รับสติกเกอร์ส่วนลดทันทีสูงสุด 20% เพียงช้อปสินค้าครบตามที่กำหนด
“จากผลการสำรวจพฤติกรรมลูกค้า เราพบว่า การนำเสนอโปรโมชั่นหรือส่วนลดให้ลูกค้าในประเภทสินค้าที่ลูกค้าไม่ได้อยากได้หรือสนใจ แม้จะเสนอส่วนลดมากแค่ไหน ลูกค้าก็จะไม่อยากซื้อ และไม่รู้สึก Engage กับแคมเปญ เพราะไม่ตรงกับความสนใจ ในทางตรงกันข้าม หากเรามอบส่วนลดในสินค้าที่ลูกค้าอยากได้ ลูกค้าก็จะรู้สึกสนใจและมีส่วนร่วมกับแคมเปญ”
ทั้งนี้ จากฐานสมาชิกที่ท็อปส์มีอยู่กว่า 21 ล้านคน ทำให้เห็นชัดเจนว่า ลูกค้าแต่ละคนมีความชอบและต้องการซื้อสินค้าที่ต่างกัน ในขณะที่แต่ละแบรนด์จะทำโปรโมชั่นสินค้าที่แบรนด์เป็นผู้กำหนดเองว่า จะทำโปรโมชั่นสินค้าอะไร และกำหนดส่วนลดให้ลูกค้าเอง ทำให้มีข้อจำกัดในการสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า เพราะสิ่งที่แบรนด์เสนอ ไม่ได้ตอบสนองตรงกับความต้องการของลูกค้า
“ท็อปส์จึงพลิกเกมการพัฒนาแคมเปญการตลาดในแบบใหม่ที่ให้อำนาจลูกค้า (Customer Empowerment) เลือกเองว่าอยากได้ส่วนลดเท่าไรกับสินค้าอะไร เป็นการคิดบนหลักการของการยึดเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง (Customer Centric) บวกกับการทำการตลาดที่เน้นโปรโมชั่นที่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแคมเปญและได้รับประสบการณ์ใหม่ในแบบที่ตนเลือกได้เองแบบ personalize”
นอกจากนี้ เราคิดว่าการกลับมาทำแคมเปญนี้ในเวลานี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เป็นการสร้างมุมมองใหม่ในการทำการตลาดให้ออกนอกกรอบการทำโปรโมชั่นแบบเดิมๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ ความตื่นเต้น และสนุกให้ลูกค้าแบบไม่สิ้นสุด