เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.นนทบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และพ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. แถลงข่าวจับกุม ชาวอเมริกันเปิดคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้าผิดกฎหมาย พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่ามีชาวอเมริกันเปิดคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้าในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยประกาศโฆษณาทางเว็บไซต์ชื่อดังของต่างประเทศ จึงขยายผลสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาคือ นายดาเรียส อายุ 62 ปี สัญชาติอเมริกัน แอบมาเปิดสถานบำบัดเป็นคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้าภายในบ้านพักซอยลาดพร้าว 108 แขวงจอมพล เขตจตุจักร มีการอ้างว่า ตนเองเป็นไลฟ์โค้ช มีปริญญาโทด้านจิตวิทยา ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี รับบำบัดฟื้นฟูจิตใจของผู้ที่มีบาดแผลทางจิตใจหรือข้อบกพร่องทางจิตใจซึ่งนำไปสู่ภาวะโรคซึมเศร้า

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าไปตรวจสอบพบว่าบ้านพักดังกล่าวไม่ได้เป็นสถานบำบัดแต่เป็นบ้านพักทั่วไป มีเตียงนอนให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้นอนผ่อนคลาย 1-2 เตียง และจากการตรวจค้นภายในตู้เย็นพบของกลางเห็ดขี้ควายแห้ง บรรจุถุง 13 ถุง น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม จึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบเงินที่สายลับใช้ล่อซื้อและลงบันทึกประจำวันตำหนิไว้ในห้องนอนที่ชั้น 2

จากการสอบปากคำเจ้าตัวให้การอ้างว่า ตนเองมีใบปริญญาด้านการบำบัดรักษาผู้ป่วยด้วยเห็ดขี้ควาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูเอกสารกลับไม่สามารถนำมาแสดงได้ แล้วก็อ้างอีกว่า ไม่มีใบการันตีแต่เป็นวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษว่าเห็ดขี้ควายมีสารสกัดสำคัญที่ใช้ในการต้านอาการซึมเศร้าได้ และไม่ทราบว่าเห็ดขี้ควายเป็นยาเสพติดประเภท 5 ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ทั้งนี้ยอมรับสารภาพว่า จะขายคอร์สรักษาคอร์สละ 2,000 บาท โดยจะผสมช็อกโกแลต น้ำผลไม้ หรือไพ่สูดดมก่อนจะเปิดเพลงกล่อมให้เคลิบเคลิ้มผ่อนคลายเพื่อให้ง่ายต่อการรักษา ที่ผ่านมาเปิดมาได้ประมาณ 1 เดือน ยังมีลูกค้าไม่มากซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเส้นทางการเงินของตำรวจที่ตรวจสอบได้

จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่านายดาเรียส ไม่ได้เป็นแพทย์ตามที่กล่าวอ้าง เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้หลายปีแล้ว เริ่มต้นจากการทำอาชีพครูสอนภาษาก่อนผันตัวมาเปิดคอร์สบำบัดรักษาดังกล่าว

พ.ต.อ.รัฐโชติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตม. ได้มีการจับกุมสถานบำบัดในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 3 คดี ซึ่งส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะชายฝั่งทะเลในจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดและอ้างว่าสามารถรักษาโรคซึมเศร้าหรือบาดแผลทางจิตใจ แต่เชื่อว่าลูกค้าไม่ทราบว่าผู้บำบัดใช้เห็ดขี้ควายผสมไปในอาหารหรือควันอโรม่า ซึ่งในระหว่างที่ผู้เข้ารับการบำบัดเคลิบเคลิ้มเมาตัวยาจะหลอกเกลี้ยกล่อมให้มอบทรัพย์สินต่างๆ ให้ ซึ่งในระหว่างที่เมายาผู้เข้ารับการบำบัดจะโอนทรัพย์สินต่างๆ ให้โดยไม่รู้ตัว อย่างคดีหนึ่ง มีผู้เสียหายที่เกาะพะงันมอบทรัพย์สินให้กับผู้บำบัดไปหลายล้านบาทโดยไม่รู้ตัว จึงขอเตือนไปยังชาวต่างชาติและคนไทยให้ระมัดระวังคนร้ายที่แฝงตัวมาในรูปแบบนี้ เพราะอาจสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมากได้