เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของการปล่อยคอนโดฯ ให้เช่า ที่กำลังถูกชาวเน็ตพูดถึงเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Siwapong Kijjaprasert ได้ออกมาระบุว่า “อุทาหรณ์คอนโดฯ ปล่อยเช่า ep.1” นี่คือสภาพห้อง หลังจากปล่อยเช่า 3 เดือน!!!

คอนโดฯ นี้เป็นของรุ่นน้องที่สนิทเป็นเจ้าของ ซึ่งฝากให้ผมจัดการดูแลให้ เนื่องจากรุ่นน้องทำธุรกิจอยู่ที่ ตปท. (ในกลุ่มมีผมเป็นผู้ชายคนเดียว) เรื่องก็คือตอนค้างค่าเช่ามา 3 เดือน (ณ ปัจจุบันค้าง 6 เดือน) มีเหตุการณ์น้ำประปาไหลออกจากห้อง ท่วมทางเดินส่วนกลางไหลจนเกือบตัวลิฟต์ เป็นแบบนี้ถึง 3 ครั้ง ซึ่งทางนิติก็ระงับการใช้น้ำ และเคาะห้องขอเข้าไปตรวจสอบ

แต่ผู้เช่าไม่ยอมให้เข้าห้อง แจ้งแค่ว่าแก้ไขแล้ว และหลังจากเหตุการณนั้น รุ่นน้องเริ่มติดต่อผู้เช่าไม่ได้ อีกทั้งไม่มีการชำระค่าเช่าตามตกลง จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ดีภายในห้องที่ให้เช่า รุ่นน้องผมก็เลยชวนกันทั้งแก๊ง (ตอนนั้นอยู่ไทยกันพอดี) เดินทางไปที่ สน.บางนา เพื่อขอลงบันทึกประจำวัน ขอเข้าตรวจสอบห้องพร้อมสายตรวจ

โดยเริ่มจากเคาะห้องก่อนแต่ไม่มีใครตอบรับ จึงได้ทำการให้ช่างกุญแจแก้ไขระบบ digital doorlock เข้าไป และก็อย่างที่เห็นตามรูป แxงเละมาก จากห้องเปล่าๆ ไม่มีการตกแต่งใดๆ ให้เสียหาย จะเจาะรูแขวนรูปภาพสักรูปก็ยังไม่เคย ที่ตกใจคือ เจอกล้องวงจรปิดในห้อง 8 ตัว ตาแมวบนประตูห้องเป็นแบบกล้องบันทึกภาพ ประตูห้องด้านในถูกถอดออก และติดประตูห้องนอนบานใหม่เข้าไป แถมติดดิจิทัลดอร์ล็อกเพิ่มไว้อีกชั้นหนึ่ง เพดานเต็มไปด้วยไฟ LED สายไฟถูกพ่วงกันมั่วไปหมด ที่น่าสงสัยกว่ากล้องวงจรปิด คือแท็งก์น้ำแบบ DIY ที่ไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร (แต่น่าจะเป็นสาเหตุที่น้ำไหลออกมาจากห้องแน่ๆ) และแท็งก์นี้แxงมีถึง 2 แท็งก์!! ผนังเต็มไปด้วยกระจกที่แปะเอง เยอะจนอดใจส่องหน้าตัวเองไม่ได้ ตรวจห้องไปสลับกับส่องหน้าตัวเองไป

สรุปตอนนี้ก็คือผ่านมา 6 เดือน ยังไม่มีการจ่ายค่าเช่าและผู้เช่าก็ยังอยู่ในห้อง แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ วันนี้ทั้งส่งจดหมายแจ้งเตือนค่าเช่าล่าช้า ระงับคีย์การ์ดและน้ำ แจ้งนิติสับคัตเอาต์ตัดไฟ แxงก้อหาวิธีมาเปิดไฟใช้เองได้อีก
สุดท้ายใครจะปล่อยเช่าคอนโดฯ เช็กดีๆ เพราะวันที่ (3/9/2567) ที่ไปแจ้งความปรึกษาตำรวจ (รอบที่ 3 แล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง)

“มีกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าที่เลิศมากๆ ห้ามงัด ห้ามขับไล่ ห้ามเยอะไปหมด จนอยากจะลองค้างค่าเช่าโกดังบ้าง (ตำรวจให้คำปรึกษาดีมากๆ ครับ แต่กฎหมายมันเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าเราทำอะไรจะกลายเป็นบุกรุกแทน) ระวังไว้ เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ในสักวัน”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Siwapong Kijjaprasert