หลังแพ้ ลิเวอร์พูล แบบหมดรูป 0-3 คาบ้านตัวเอง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องเจอฝันร้ายยาวนานต่อเนื่อง ในเดือน ก.ย. ต่อถึง ต.ค. 67 เพราะมีโปรแกรมลงเล่นถึง 7 เกม ในเวลาแค่ 22 วัน

เอริค เทน ฮาก พา แมนฯ ยูไนเต็ด จบอันดับต่ำที่สุดในการเล่นพรีเมียร์ลีกคือที่ 8 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ตอนนี้ “ผีแดง” อยู่ที่ 14 มีแค่ 3 คะแนน จาก 3 เกม และแพ้ไปแล้วถึง 2 เกม

หลังจากนี้ ทุกเกมจึงอาจจะเป็นเกมสุดท้ายในการคุมทีมของกุนซือชาวดัตช์ได้ทั้งหมด

เจอใครบ้าง ?
หลังจบช่วงเบรกทีมชาติรอบเดือน ก.ย. ผีแดง มีคิวเตะยาวเหยียดติด เพราะนอกจากพรีเมียร์ลีก 4 นัดแล้ว ฟุตบอลถ้วยอย่าง คาราบาว คัพ กับ ยูโรป้า ลีก ก็จะเริ่มเตะด้วย

กลับมานัดแรก เริ่มด้วยการไปเยือนน้องใหม่ เซาแธมป์ตัน ในวันที่ 14 ก.ย. ต่อด้วยลีกคัพ รอบ 3 ในบ้านกับ บาร์นสลีย์ ในวันที่ 17 ก.ย. ก่อนที่จะไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในเกมลีก วันที่ 21 ก.ย.

จากนั้น จะประเดิมยูโรป้า ลีก นัดแรก ด้วยการเล่นในบ้านพบ ทเวนเต ในวันที่ 25 ก.ย. ตามด้วย เปิดรังรับมือ สเปอร์ ในวันที่ 29 ก.ย. ก่อนที่จะไปเยือน ปอร์โต ในบอลยุโรป วันที่ 3 ต.ค.

นัดสุดท้าย ก่อนเบรกทีมชาติรอบหน้าคือไปเยือน แอสตัน วิลลา ในวันที่ 6 ต.ค.

ยากแค่ไหน ?
7 เกมที่ว่ามา ดูทั่วไป ไม่ถึงกับหนักมาก และถ้าหากเทียบกับทีมอื่น มีทีมที่จะต้องเจองานหนักกว่าพวกเขาเยอะ เช่น เบรนท์ฟอร์ด ที่ต้องเจอทั้ง แมนฯ ซิตี, สเปอร์, เวสต์แฮม

นอกจากนั้น ถ้าวัดจากการเจอกันฤดูกาลที่แล้ว ก็ถือว่าผีแดงทำได้ดี ยกเว้น เซาแธมป์ตัน ที่ไม่ได้เจอ นอกนั้นพวกเขาทำได้ดี

แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ พาเลซ 4-0 ที่เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค, เสมอ สเปอร์ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-2 และบุกไปชนะ วิลลา 2-1

ถ้าทำได้เหมือนเดิม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นอะไร?

บอลถ้วยหนักไหม?
ถ้านับเรื่องโทรฟี่ นับตั้งแต่มาทำงานที่อังกฤษ เทน ฮาก เป็นรองแค่คนเดียวคือ เปป กวาร์ดิโอลา

ทีเด็ดของเขาก็คือฟุตบอลถ้วย เพราะได้ 2 แชมป์ใน 2 ปี คือ คาราบาว คัพ ในปี 2023 และเอฟเอ คัพ ในปี 2024

ฤดูกาลนี้ ผีแดง เจองานเบาในรอบ 3 คาราบาว คัพ เพราะพบ บาร์นสลีย์ โอกาสเข้ารอบ 4 สดใส

แต่คำถามคือฟุตบอลยุโรป เพราะฤดูกาลก่อน ปิ๋วตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

อย่างไรก็ดี บอลยุโรป ฤดูกาลนี้ ก็เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน หันมาเล่นแบบลีก มีโอกาสลงเล่นถึง 8 เกมในรอบนี้ ดังนั้น จึงยังบอกอะไรไม่ได้ และต้องดูกันยาวๆ

มานูเอล อูกาเต?
หลังเห็นฟอร์มของ คาเซมิโร ในแดงเดือด แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด คงจะเข้าใจแล้วว่าทำไม เทน ฮาก ต้องซื้อ อูกาเต

แต่ เทน ฮาก ก็ยอมรับเองว่ามิดฟิลด์ทีมชาติอุรุกวัย อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้

อูกาเต มีคุณสมบัติที่แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ เขาขยัน หนักหน่วง เข้าบอลแน่น เก็บบอลได้ จ่ายบอลโอเค

แต่น่าเสียดายที่ เทน ฮาก ยังไม่สามารถร่วมงานกับเขาได้ในช่วงพักทีมชาติรอบนี้ เพราะต้องกลับไปเล่นให้อุรุกวัย ในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับ ปารากวัย และเวเนซุเอลา

แต่ถ้าลงลึกกว่านั้น ปัญหาในแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจไม่สามารถแก้ได้ด้วยการมาของ อูกาเต คนเดียว เพราะมันสะสมมานาน

เห็นได้ชัดจากเกมกับ ลิเวอร์พูล ที่ตรงกลางแทบหาบอลกันไม่เจอ เช่นเดียวกับก่อนหน้านั้นในเกมกับ ฟูแลม และ ไบรท์ตัน ที่ชัดเจนว่าตรงกลางทำงานไม่ได้

แม้ อูกาเต วัย 23 ปี จะอ่อนกว่า คาเซมิโร ถึง 9 ปี และมาพร้อมสถิติดีกรีที่ยอดเยี่ยม แต่เขาคนเดียวคงไม่สามารถเสกให้ผีแดงดีขึ้นได้ในชั่วพริบตา และปัญหาคือระบบของทีมมากกว่า

การจบสกอร์ ?
แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้แค่ 2 ประตู จาก 3 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก ซึ่งไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีโอกาส แต่เพราะพวกเขาเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูไม่ได้

ทีมของ เทน ฮาก มีโอกาสยิงแบบจะแจ้งที่ควรจะได้ประตูถึง 9 ครั้ง ซึ่งเท่ากับ ลิเวอร์พูล แต่ความแตกต่างคือ ลิเวอร์พูล เปลี่ยนเป็นประตูได้ถึง 7 ครั้ง ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้สักครั้ง

โจชัว เซิร์กเซ กองหน้าคนใหม่ ลงเป็นตัวสำรองมายิงประตูชัยในเกมแรกกับ ฟูแลม แต่หลังจากนั้น เขาก็เจอปัญหาเดียวกับคนอื่น

เมื่อหอกดัตช์คือ 1 ใน 3 คนของผีแดง ร่วมกับ บรูโน แฟร์นันด์ส และอเลฮานโดร กานาโช ที่พลาดโอกาสทำประตูแบบจะแจ้งอย่างน้อย 2 ครั้ง

นี่จึงเป็นปัญหาที่ชัดเจนของ แมนฯ ยูไนเต็ด และต่อให้ได้ ราสมุส ฮอยจ์ลุนด์ หายเจ็บกลับมา ก็ไม่รู้จะช่วยได้ไหม เพราะฤดูกาลที่แล้ว ดาวยิงเดนมาร์ก ยิงไปแค่ 10 ประตูในลีก

ยังมีโอกาสไหม ?
เทน ฮาก ยังถือว่ามีโชคอยู่บ้าง เพราะมีระฆังช่วยตอนพักเบรกทีมชาติพอดี

2 สัปดาห์นี้จึงจะเป็นเวลาที่เขาจะได้นั่งคิด ทบทวน วางแผนดูใหม่อีกครั้งว่าจะพาทีมเดินไปทางไหนต่อไป

นอกจากนั้น เขายังมีเวลาพอให้พวกที่เจ็บไปนานได้โอกาสกลับมาด้วย เช่น ฮอยจ์ลุนด์ และ ลุค ชอว์ ที่คาดว่าจะฟิตแล้วหลังเกมทีมชาติรอบนี้

พูดถึงเวลา โอกาส และทรัพยากร จึงถือว่า เทน ฮาก ยังโชคดี จึงอยู่ที่ตัวเขาเองแล้วเท่านั้นว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์ให้กลับมาโดดเด่นอีกครั้งได้หรือไม่

ถ้ายังไม่ได้ ผลงานยังลุ่มๆ ดอนๆ แบบนี้ต่อไป โอกาสจะไปต่อถึงปีใหม่ก็เลือนรางเต็มทน?