เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่อาคารชินวัตร 3 เครือข่ายภาคประชาชน ในนามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ นำโดย นายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ประธานพีมูฟ นัดชุมนุมและยื่นหนังสือถึงข้อเสนอนโยบายทั้ง 10 ด้านของภาคประชาชน ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปพิจารณาและกำหนดเป็นนโยบายในการบริหารประเทศ พร้อมทั้งสานต่อข้อเรียกร้องของประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตย ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้ส่งตัวแทนทีมงานผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย มารับการยื่นหนังสือแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อเรียกร้องของพีมูฟคือ ข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้าน ประกอบด้วย 1.สิทธิ เสรีภาพ และประชาธิปไตย เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่มีบทบัญญัติผลกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ในด้านต่าง ๆ 2.การกระจายอำนาจ ปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

3.นโยบายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เช่น ให้ยกเลิกคดีความที่ไม่เป็นธรรมทั้งปวง 4. นโยบายที่ดิน และการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม เช่น กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม ตามข้อเสนอของภาคประชาชน 5. นโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติคือ การยกเลิกนโยบาย และกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น ยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า และแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ

6. นโยบายภัยพิบัติ เช่น ส่งเสริมระบบการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน เพื่อลดความเสี่ยงของประชาชน ในการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดเหตุ การช่วยเหลือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูเยียวยาหลังเกิดเหตุ

7. นโยบายการคุ้มครองชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ โดยให้มีคณะกรรมการอำนวยการด้านแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ที่มีมติ ครม. รับรองสามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์ประกอบจากภาคประชาสังคมและชุมชนมากกว่ากึ่งหนึ่ง

8. นโยบายสิทธิของคนไร้สถานะ เพื่อแก้ปัญหาด้านสถานะ และสิทธิบุคคล ของคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธ์ 9. นโยบายรัฐสวัสดิการ เดินหน้าข้อเสนอรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า และ 10. นโยบายด้านที่อยู่อาศัย เช่น รัฐต้องจัดสรรที่ดินให้ประชาชนอยู่อาศัยอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง

นายธีรเนตร กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือว่า เป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีกำหนดการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ และจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย. 2567) เพื่อพิจารณาเห็นชอบร่างนโยบายที่ น.ส.แพทองธาร จะแถลงต่อรัฐสภา ทั้งนี้ ภายหลังการยื่นหนังสือเราขอให้มีการพูดคุยกับรัฐบาล โดยให้ทีมงานผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ประสานกลับมาที่ตัวแทนของเรา เพื่อหาเวลาในการพูดคุยให้เข้าใจร่วมกันในหลาย ๆ ด้าน 

นายธีรเนตร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทย เนื่องจากพีมูฟได้เข้ายื่นหนังสือต่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย สส.พรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนรับข้อเสนอดังกล่าว จากนั้นนายสรวงศ์ ได้นัดหมายหารือรายละเอียดของนโยบายแต่ละประเด็น ในวันที่ 3 ก.ย. 2567 แต่ต่อมาได้มีการยกเลิกการนัดหมาย เนื่องจากตัวแทนพรรคเพื่อไทย แจ้งมาว่าติดภารกิจ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการนัดหมายการหารือเรื่องดังกล่าว ตนจึงอยากจะทราบวันและเวลาที่ชัดเจน

ตัวแทนทีมงานผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ตนจะดำเนินการตามกระบวนการของพรรคเพื่อไทยอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องของวันและเวลาที่จะมาพูดคุยกันนั้น ขอให้ทางผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย จะเป็นคนกำหนดวันและเวลามาเอง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สำหรับกลุ่มพีมูฟในเรื่องการนัดหมายที่จะมาพูดคุยกัน จะต้องนัดหมายก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 ก.ย. 2567 ใช่หรือไม่ นายธีรเนตร กล่าวว่า ใช่ ต้องก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะเราได้มีความพยายามในการติดต่อรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2567 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กลุ่มพีมูฟได้มายื่นข้อเสนอนโยบายทั้ง 10 ด้านของภาคประชาชนให้กับ น.ส.แพทองธาร นายกฯ นั้น เป็นเวลาเดียวกันที่ “นายกฯ อิ๊งค์” ได้เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 โดยเปลี่ยนเส้นทางไม่เข้าหน้าอาคารเหมือนเช่นทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟ อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มพีมูฟประกาศที่จะปักรออยู่ที่อาคารชินวัตร 3 เพราะได้มีการติดต่อถึงการประสานงานว่าจะให้ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ประสานงานกลับมาภายในวันนี้ ว่าจะมีการกำหนดวันเวลาพูดคุยกันอีกครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อย