ผู้สื่อข่าวรายว่า ที่ห้องประชุมทิพย์โฆษิตคุณ ชั้น 5 เทศบาลเมืองนครพนม มูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการสร้างศูนย์เรียนรู้นาคราชของ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ประธานมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม มีคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองนครพนม กรรมการมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน
สำหรับโครงการจัดสร้างศูนย์เรียนรู้นาคราช เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาของความเชื่อ ความเลื่อมใสศรัทธาต่อพญานาคในอนุภูมิภาคดินแดนกลุ่มชาวลุ่มน้ำโขง รวมถึงประวัติความเป็นมาของการก่อสร้างองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดนครพนม และเป็นสถานที่เคารพบูชาของชาวนครพนม ชาวไทยทั่วทุกภาค รวมถึงชาว สปป.ลาว
นายสมชาย กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่จังหวัดนครพนมได้จัดสร้างองค์พญาศรีสัตตนาคราชแล้วเสร็จเมื่อปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้มากราบไหว้บวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช และจังหวัดนครพนมได้จัดงานประเพณีบวงสรวงพญาศรีสัตตราช ทุกวันที่ 7 เดือน 7 ทุกปี รวม 7 วัน 7 คืน ดังนั้น ทั้งสี่หน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือร่วมกันในการจัดสร้างศูนย์เรียนรู้นาคราชขึ้น บริเวณแลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช เพื่อให้เป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาของความเชื่อ ความเลื่อมใส ศรัทธาต่อพญานาคในอนุภูมิภาคดินแดนกลุ่มชาวลุ่มน้ำโขง รวมถึงประวัติความเป็นมาของการก่อสร้างองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ในรายละเอียด ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ จะได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมในอนาคต โดยมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงอาคารเดิมของที่ทำการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีนครพนม จำกัด ซึ่งเทศบาลเมืองนครพนมได้ขออนุญาตใช้อาคารจากธนารักษ์เรียบร้อยแล้ว โดยให้มหาวิทยาลัยนครพนม เป็นผู้ออกแบบปรับปรุงอาคารให้ดูเด่นเป็นสง่า สวยงามทั้งภายนอกและภายใน สนับสนุนงานวิชาการ บริเวณภายในอาคารจัดเป็นห้องนิทรรศการเกี่ยวกับข้อมูลความเป็นมาของพญานาค และพญาศรีสัตตนาคราชด้วยสื่อที่ทันสมัย น่าสนใจ จัดทำทางลาดสำหรับผู้พิการให้เข้าชมได้สะดวก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการและให้คำแนะนำ คาดว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี
นายวันชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ จ.นครพนมได้จัดสร้างองค์พญาศรีสัตตนาคราช บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องมากที่สุดในจังหวัดภาคอีสาน 2 ปีซ้อน และกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้รับงบประมาณปี 2567-2568 ในการก่อสร้างเขื่อนเรียงหินริมแม่น้ำโขงพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามตั้งแต่ลานพญาศรีสัตตนาคราชจนถึงลานแสงสิงแก้ว นอกจากนี้จังหวัดนครพนมได้รับจัดสรรงบประมาณของกลุ่มจังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 55 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างชิงช้าสวรรค์สูง 55 เมตร บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติริมแม่น้ำโขง เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนมที่เชื่อมโยงไปยังองค์พญาศรีสัตตนาคราช และหอนาฬิกา นอกจากนี้ได้วางแผนที่จะก่อสร้างหอชมเมืองนครพนม ความสูง 137 เมตร ที่บริเวณสวนชมโขง ซึ่งเป็นเรือนจำเก่านครพนม ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วมีความสวยงามมาก แต่ต้องมีการผลักดันในการของบประมาณต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนครพนม มีความพร้อมในการสนับสนุนการออกแบบปรับปรุงอาคาร สนับสนุนวิชาการ งานวิจัยต่าง ๆ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ให้น่าสนใจที่ตรงกับทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ
นายนิวัต กล่าวว่า เทศบาลเมืองนครพนม พร้อมที่จะสนับสนุนด้านพื้นที่ การบริหารจัดการภายในศูนย์และบุคลากรประจำศูนย์เรียนรู้