สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 5 พ.ย. นี้ กล่าวว่า หากชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง จะแต่งตั้งนายอีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา และสเปซเอ็กซ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ “คณะกรรมาธิการประสิทธิภาพส่วนกลาง” เพื่อ “ตรวจสอบ” หน่วยงานทุกแห่งของรัฐบาลกลาง


ทรัมป์กล่าวว่า หน่วยงานดังกล่าวจะเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งจะเน้นตรวจสอบการใช้งบประมาณ และผลงานของหน่วยงานในสังกัดรัฐบาลกลาง ขณะเดียวกัน หน่วยงานแห่งนี้จะคิดค้น และพัฒนาแผนปฏิบัติการเพื่อปราบปรามการฉ้อโกง และการเบิกจ่ายงบประมาณ “ที่ไม่เหมาะสม” ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เริ่มงาน ซึ่งแน่นอนว่า จะช่วยประหยัดงบประมาณ “หลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ”


อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หนี้สาธารณะของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 275.36 ล้านล้านบาท) มากกว่าเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ในสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน


ก่อนประกาศแผนการเรื่องนี้ ทรัมป์เคยกล่าวถึง “การลดภาษีเป็นวงกว้าง” การพัฒนาสหรัฐให้เป็น “เมืองหลวงแห่งเงินดิจิทัล” และการจะยกเลิกกฎหมายลดเงินเฟ้อของไบเดน ที่ตอนนี้เป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสะอาดและยารักษาโรค


ด้านมัสก์ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เจ้าตัวประกาศสนับสนุนทรัมป์อย่างเป็นทางการ หลังเกิดเหตุพยายามลอบสังหารทรัมป์ ระหว่างการปราศรัยที่รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP