เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่เกิดเหตุบนทางต่างระดับข้ามแยกหน้าสภ.คลองหลวง ถนนบางขัน-หนองเสือ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่
ที่เกิดเหตุด้านบนสะพานข้ามแยกพบรถยนต์ชนกันจำนวน 3 คัน สภาพกระจัดกระจายจนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้เป็นรถยนต์ยี่ห้อมาสด้ารุ่น 2 เงินหมายเลขทะเบียน 2ขจ-2608 กทม.สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินชนติดอยู่กับขอบทางภายในตำแหน่งผู้ขับขี่พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อน.ส.นราทิพย์ ตันดี อายุ 28 ปี ตำแหน่งจัดซื้อบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตัว อ.เมืองปทุมธานี ข้างกันพบรถยนต์มาสด้ารุ่น 2 สีเงิน ทะเบียนกบ-380 สระบุรี มีร่องรอยการชนด้านหน้าพังยับเยินผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลฮอนด้ารุ่นซีวิคสีขาวทะเบียน 2 กข- 8582 กทม.สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายทราบชื่อน.ส.ผาติรัชต์ ลิ้มพงษ์ อายุ 35 ปี มีอาการเจ็บหน้าอกผู้ขับขี่และนายอัยการ มารุยามา อายุ 32 ปีนั่งข้างขาขวาหัก ถูกนำตัวส่งรพ.บางปะกอกรังสิต 2 ไปก่อนหน้า โดยที่ด้านบนสะพานพบชิ้นส่วนรถยนต์และคราบน้ำมันกระจายเป็นจำนวนมาก
สอบสวนเบื้องต้นนายสุขสันต์ สุขประเสริฐ อายุ 31 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์มาสด้ารุ่น2สีเงิน ทะเบียนกบ-380สระบุรี ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองมุ่งหน้ามาจากทางคลองห้ามุ่งหน้าขาเข้ากทม.เพื่อหาอาหารรับประทานโดยขับตามหลังรถยนต์ของผู้ตายมาในทิศทางเดียวกัน เมื่อรถมาถึงด้านบนสะพานมีรถยนต์ฮอนด้ารุ่นซีวิคสีขาว ที่วิ่งสวนทางมาเสียหลักข้ามเลนชนรถยนต์ของผู้เสียชีวิตในลักษณะประสานงา ก่อนที่จะมาชนตนเองซึ่งขับตามหลังรถผู้ตายมา
ด้านนายทิวากร อินทร์ทรายปุระ อายุ 27ปี แฟนผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตกำลังจะขับรถกลับบ้านพักย่านตลอดพูนทรัพย์ อ.เมืองปทุมธานี โดยออกมาจากหอพักเพื่อนย่านคลองหกและกำลังกลับบ้านกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุโดยผู้ตายขับขี่มาคนเดียวโดยก่อนเกิดเหตุ ก่อนหลับบ้านยังโทรหาตนเองบอกว่ากำลังจะขับรถกลับบ้าน
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน ได้ตรวจสอบกล้องหน้ารถของรถยนต์ฮอนด้ารุ่นซีวิคสีขาว คันต้นเหตุซึ่งกล้องระบุความเร็วพบว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงทางขึ้นสะพานรถยนต์ต้นเหตุใช้ความเร็วถึง163กม./ชม.ก่อนที่จะแซงรถที่อยู่ด้านหน้าในลักษณะคร่อมเลนไปในช่องทางเดินรถที่สวนเลนมา จากนั้นผู้ขับขี่ได้โยกรถกลับมาในเลนของตนเองอย่างรวดเร็ว ทำให้รถที่มีความเร็วสูงเสียการควบคุมจนคร่อมเลนไปชนรถของผู้ตาย และคู่กรณีอีกคันหนึ่งอย่างแรงจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ด้านร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง กล่าวว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐานสอบปากคำพยานบุคคล และตรวจสอบกล้องหน้ารถ ประสานดับเพลิงทำการล้างคราบน้ำมันที่ตกหล่นบนผิวทาง และจะได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป