นายชุติวัต ชัยดรุณ นายกสมาคมการค้าส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจ กลุ่มลุ่มน้ำโขง เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นเชื่อมต่อไทย-ลาว-จีน เมื่อเร็วๆนี้ว่า ทางสมาคมได้ร่วมปล่อยขบวนรถไฟบรรทุกทุเรียน มังคุด และลำไยคุณภาพสูงของไทยจำนวน 500 ตัน รวมมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มต้นเดินทางจากหนองคาย ผ่านลาว และมุ่งหน้าสู่ท่าเรือนานาชาติห้วยเหอในมณฑลหูหนานของจีน โดยจะใช้เวลาเดินทางเพียง 5 วันเท่านั้น ซึ่งการขนส่งทางรถไฟด้วยระบบขบวนตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นในครั้งนี้ จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางถนนที่ใช้เชื้อเพลิงขับเคลื่อน การขนส่งทางอากาศที่มีต้นทุนสูง และการขนส่งทางน้ำที่ใช้เวลานาน นับว่าเป็นการปฏิวัติในด้านการขนส่งครั้งใหญ่ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านโลจิสติกส์แบบขบวนตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นระหว่างไทย-ลาว-จีน โดยเป็นความร่วมมือของสมาคมการค้าส่งเสริมและการพัฒนาเศรษฐกิจกลุ่มลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ และหน่วยงานต่างๆ ของไทย

สำหรับการปล่อยขบวนรถไฟขนส่งในครั้งนี้ จะเป็นการยืนยันและการันตีถึงคุณภาพของผลไม้ไทยอย่างทุเรียนและมังคุด ในขณะเดียวกันการขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารแช่แข็งคุณภาพสูงจากจีนจะสามารถเข้าสู่ตลาดอาเซียนได้อย่างสะดวกผ่านเส้นทางโลจิสติกส์ใหม่นี้ นำไปสู่การพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในอนาคตประเทศไทย มีแผนที่จะเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟของไทยและลาวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า พร้อมตั้งเป้าจะขยายการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศสมาชิก RCEP ให้กว้างขึ้นด้วยการขนส่งทางรถไฟขบวนตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นนี้อีกด้วย ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นจากหนองคาย ไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่ความสดใหม่และรสชาติที่เหนือชั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาการบริการโลจิสติกส์ที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า ถือเป็นสัญญาณแห่งยุคสมัยใหม่ของการใช้ชีวิตคุณภาพสูงสำหรับทุกคนและเป็นข่าวที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารสดใหม่อีกด้วย  

 “พวกเราทุกท่าน พร้อมทำงานหนักและพร้อมผลักด้น ระบบโลจิสติกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเชื่อมโยง  ระบบการค้า ของอาเซียนอย่างยั่งยืน หวังว่ากลุ่มอาเซียน และกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงบ้านพี่เมืองน้องของเราจะยกระดับเศรษฐกิจสู่การค้า อย่างทัดเทียมกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สู่ลูกหลานเราสืบต่อไป” นายกสมาคมฯ กล่าวในตอนท้าย