เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมายสำนักงานอัยการสูงสุด น.ส.กุสุมาลย์ เจนการ ได้เดินทางขอเข้าพบ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เพื่อขอรับคำปรึกษาปัญหาทางกฎหมายและตรวจสอบ ในกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ถังน้ำราคา 45 บาท กระจกเงาหนึ่งบาน 100 บาท ลูกกุญแจหนึ่งลูก 20 บาท รวมรวมราคา 165 บาท โดยร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายว่า ตนยอมรับว่าลูกเอาถังน้ำมาจริงและได้บอกกับเจ้าของห้องเช่าไปแล้ว และยืนยันว่ากระจกเงาราคา 100 บาทไม่มีอยู่ในห้องเช่าตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนลูกกุญแจราคา 20 บาท ตนได้นำวางไว้บนตู้มิเตอร์ไฟฟ้า เเต่ยอมรับว่าลูกอายุเจ็ดขวบหยิบถังน้ำมาด้วยจริง และตนยังได้นำถังน้ำไปให้ตำรวจตามที่ตำรวจเรียกไปพบ ไม่ได้มีเจตนาลักทรัพย์
ตนมีฐานะยากจนต้องเลี้ยงดูลูกสี่คนเพียงลำพัง จึงไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณณรงค์ ทวงคืนความ ยุติธรรมในสังคม และในวันนี้ทางมูลนิธิได้พาเข้าพบอธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือ ให้ความรู้ และขอความเป็นธรรม โดยยินดีชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุดให้ดำเนินการต่อไป
ด้าน นายโกศลวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวเเล้ว เห็นว่าคดีนี้ได้มีการทำสำนวนส่งอัยการจังหวัดปทุมธานีไปเเล้ว จึงได้ติดต่อยังอัยการจังหวัดปทุมธานี ก็พบว่ายังอยู่ระหว่างพิจารณายังไม่มีการสั่งคดี ซึ่งเรื่องนี้ในทางกฎหมายเเล้วยังสามารถเข้าตาม พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ย จึงได้ขอให้อัยการจังหวัดปทุมธานีให้ความเป็นธรรมสั่งให้ดำเนินการให้ครบถ้วนตามกฎหมาย คือถ้าส่งให้ตำรวจทำการไกล่เกลี่ยได้สำเร็จก็ยังสามารถยุติคดีได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลเหตุคดีนี้เกิดจาก น.ส.กุสุมาลย์ ซึ่งได้มีบุตรทั้งหมด 4 คน ได้เช่าห้องในบ้านเช่าแห่งหนึ่งเเละค้างค่าเช่ากว่า 1 พันบาท จนโดนเจ้าของบ้านไล่ออกจากห้อง เเละเมื่อมีการขนของออกแล้วปรากฏว่า บุตรที่อายุ 7 ปี ได้หยิบถังน้ำของเจ้าของห้องออกมา ด้วยความไม่รู้ว่าถังน้ำใบดังกล่าวเป็นของบ้านเช่า จึงมีการเเจ้งความดำเนินคดีเเละมีการออกหมายเรียก น.ส.กุสุมาลย์ มาดำเนินคดีเเละทำสำนวนทำความเห็นส่งพนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี จนมีการมาขอความช่วยเหลือกฎหมายจาก นายโกศลวัฒน์ ดังกล่าว.