เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ก.ย. 67 ที่ห้องประชุมชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและสัมมนาทางวิชาการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2/2567 โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มท. นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อุปนายก และคณะกรรมาธิการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และนายกเทศมนตรี สมาชิกสภาท้องถิ่น และคณะผู้บริหารเทศบาลทั่วประเทศ เข้าร่วมในพิธีเปิด และรับฟังปาฐกถาพิเศษ

โดยนายอนุทิน ปาฐกถาพิเศษว่า รัฐบาลไทยได้ส่งเสริมการกระจายอำนาจมาโดยตลอดสอดคล้องกับทิศทางที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อให้การปกครองส่วนท้องถิ่นมีความคล่องตัว ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อย่างมีประสิทธิภาพอันสูงสุด และที่ผ่านมา เทศบาลและการปกครองท้องถิ่นมีพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้บริหารท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการใช้ที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการปกครองและยกระดับคุณภาพชีวิต ความสะดวก ปลอดภัย การมีสุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชน ตลอดจนการยกระดับสู่มุ่งสู่เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City

“เมื่อกระจายอำนาจไปแล้วขอให้เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ ต้องมองว่าการกระจายอำนาจ คือการกระจายความรับผิดชอบมีอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นอิสระในการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายอนุทิน กล่าว 

นายอนุทิน กล่าวว่า พร้อมกันนี้ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น กรณีของกรุงเทพมหานครที่พัฒนา Application Traffy Fondue สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมถึงประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ พลังงานหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้ง Solar cell ที่สำนักงานของหน่วยงานต่าง ๆ รถยนต์และจักรยานยนต์ EV และในอนาคตจะต้องขยายผลไปยังการส่งเสริมสินค้า และผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน สินค้าอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีมาตรฐานไม่ทำลายสิ่งเเวดล้อม จะทำให้เรามีโอกาสส่งเสริมการขาย ก่อให้เกิดกำไรกลับคืนสู่ชุมชนได้มากขึ้น และไม่ถูกตัดแต้มทางการค้า 

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนขอฝากเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเพราะการกระจายอำนาจการบริหารทรัพยากรบุคคล และการบริหารงบประมาณ ขอให้ใช้โอกาสนี้สนับสนุนส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นการสร้างธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เเข็งเเรง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทุกพื้นที่ต้องทำให้อยู่ในสภาวะที่ น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก การควบคุมมลพิษอย่างมีประสิทธิภาพ มีการกำจัดขยะ มีการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนตัวได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ มอบหมายรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ ช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับจังหวัด เพื่อให้สามารถสนับสนุน อปท. ในการขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจได้ด้วย 

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้พี่น้องใน อปท. ทุกคน ให้ความสำคัญกับการใกล้ชิดพี่น้องประชาชน ให้บริการประชาชนเหมือนดั่งญาติ  ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมีเรื่องนี้อยู่ในหัวใจอยู่แล้ว เช่นเดียวกับที่กระทรวงมหาดไทยเห็น นายกเทศบาล สมาชิกสภา ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ทุกคนเป็นพี่น้องกัน ในส่วนตัวผมคิดว่าเรามีความใกล้ชิดกันมาก ตนมีความเข้าใจในระบบของการปกครองการบริหารส่วนท้องถิ่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงอยากจะให้ความมั่นใจกับว่าท่านว่าเราจะต้องทำงานไปด้วยกันด้วยประสิทธิภาพและมีความสัมฤทธิผล ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน มีทัศนคติที่ดี ในการรับฟังปัญหาไม่อยู่แค่ในระบบหรือในแผ่นกระดาษ หรือเพียงเเค่ปรากฏในรายงานต่าง ๆ แล้วไม่ได้ถูกนำมาใช้ หรือแก้ปัญหาอย่างถูกจุด.