เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร 1 ว่าเป็น ครม.ครอบครัว โดยนายกรัฐมนตรีสวนกลับทันทีว่า “ทำไมหรือ หน้าตาดีใช่ไหม หรือว่ายังไง”
เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์และใช้คำค่อนข้างแรงว่าเป็นครม.สืบสันดาน น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่า “ใช้คำแรงจัง” จริงๆ มีหลายรูปแบบ และมีหลายคนที่ไม่ใช่ครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกัน และมีหลายคู่ที่เป็นครอบครัวต่อกันมา ตนอยากให้มองถึงความตั้งใจ ที่เป็นการถ่ายทอดมาจากคนใกล้ชิดและคนรู้จัก เพราะหลายอย่างในชีวิตที่ต้องทำต้องอาศัยแรงผลักดันและความภูมิใจของคนข้างๆ เพราะฉะนั้นคำว่าเป็นครอบครัวไม่ใช่ข้อเสีย แต่จะเป็นแรงผลักดันให้กันมากกว่า เพราะคนหนึ่งเคยทำให้ประเทศแบบนี้และอีกคนที่เข้ามาก็จะมีแรงผลักดันเช่นกัน
เมื่อถามว่า พอมีคำว่าครอบครัว ก็จะหนีไม่พ้นคำว่าครอบงำ แม้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่แต่ก็ยังมีข้อครหา คำวิจารณ์คำฟ้องร้องก็ถาโถมเข้ามานั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า “ขอให้สงสารนายกฯ บ้าง อย่าฟ้องร้องอะไรเยอะเลย เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีในประวัติศาสตร์ที่อายุน้อยที่สุด และตั้งใจทำงานเต็มที่ อย่างที่บอกไปวันที่ให้สัมภาษณ์ ว่า เรื่องเล็กๆ อย่าให้ความสำคัญ เรื่องฟ้องร้องอะไรต่างๆ อย่าให้ความสำคัญ คนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลย เพราะมันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้วต้องค่อยๆ”
เมื่อถามว่า การที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุด สำหรับการบริหารงานหลายๆ อย่างมีความกังวลอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติโดยการโหวตจากสภา ต้องขอบคุณทุกคน และการที่เข้ามานั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตนไม่พร้อมที่จะข่มเหงใคร แต่พร้อมที่จะรับฟัง และพร้อมที่จะให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน คิดว่าหลักคิดตรงนี้ จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น
เมื่อถามว่าข้อวิจารณ์และข้อร้องเรียนต่างๆ จะบั่นทอนตัวของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ก็โอเคนะคะ ทุกคนมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าทุกคนคิดในใจว่าเราวิจารณ์ด้วยเหตุผล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์จะดี แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ขอกำลังใจกันบ้างเท่านั้น
ต่อข้อถามกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ในวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จะต้องนำเข้าไปบรรจุในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “อะไรที่เป็นประโยชน์ เดี๋ยวดูกันอีกที”