เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ สน.ท่าเรือ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รองผบก.น.5 เดินทางเข้าประชุมติดตามคดี โชวเฟอร์รถบรรทุกคลั่งชนดะมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
หนีด่วน! ‘รถ 6 ล้อคลั่ง’ สติแตกไล่ชนรถชาวบ้าน ตำรวจระดมไล่ยิงสกัดมุ่งหน้าไปทางท่าเรือ
ภายหลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.วิทวัฒน์ เปิดเผยว่า เปิดเผยความคืบหน้าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.00 น. ช่วงถนนอาจณรงค์ในพื้นที่สน.ท่าเรือ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถชนคนเดินข้ามถนนได้รับบาดเจ็บและหลบหนี เมื่อตำรวจได้รับแจ้งจึงพยายามขับรถไล่ติดตาม จึงทำให้มีการไปเฉี่ยวชนรถอื่นในเส้นถนนพระราม 4 ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ และพื้นที่ใกล้เคียงต่อเนื่องกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามไปผู้ก่อเหตุได้ไปกลับรถบริเวณโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.คลองตัน ในจุดดังกล่าวได้ไปชนรถจักรยานยนต์คันอื่นเพิ่มขึ้นอีกได้รับบาดเจ็บ 1 คน เสียชีวิต 1 คน ก่อนหลบหนีขึ้นทางด่วนไปลงแถวบางพลี
ผบก.น.5 กล่าวต่อว่า ภายหลังผู้ก่อเหตุได้จอดรถและกระโดดลงไปในคลอง และว่ายน้ำเป็นระยะทาง เกือบ 2 ก.ม. เข้าไปหลบอยู่ในท่อระบายน้ำของโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ก่อเหตุได้พกเหล็กแหลมสองชิ้นติดตัวไปด้วย ตำรวจจึงพยายามเจรจาเกลี้ยเกล่อมให้มอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยินยอม ผ่านไปสักพักหนึ่งเห็นว่าเงียบไป จึงเข้าไปดูพบว่าได้แขวนคอตัวเองด้วยเชือก โดยยังพบว่าหายใจอยู่ แต่หายใจเบา ไม่มีสติ พูดคุยไม่ได้ จึงนำตัวออกมาพร้อมประสานกู้ภัยส่งโรงพยาบาล และได้ประสานไปยังโรงพยาบาลในการตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งมีตำรวจจาก สน.ท่าเรือ และ สภ.บางพลี ควบคุมดูแลอยู่
ทั้งนี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจว่าหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ สน.คลองตัน เสียชีวิตลงแล้ว ทาง พล.ต.ท.ธิติแสงสว่าง ผบช.น. มีความเป็นห่วงได้กำชับให้จับกุมผู้ต้องหาให้ได้และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทุกข้อหาที่ตรวจพบ เบื้องต้นในพื้นที่ สน.คลองตัน จะแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและหลบหนี , ขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส ส่วน สน.ท่าเรือ แจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส สน.ทองหล่อ แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบก็จะแจ้งเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานทราบว่า ตัวผู้ก่อเหตุพึ่งมาเริ่มงานได้ไม่นาน ยังไม่มีความสนิทสนมเท่าที่ควร ในส่วนของพฤติการณ์เรื่องยาเสพติดดื่มสุราไม่มี ตรวจค้นรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมเมื่อเดือน พ.ย. 60 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ข้อหาครอบครองยาเสพติด.