จากรณี นางกฤษณา (สงวนนามสกุล) เศรษฐีนีวัย 57 ปี ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกเจ้าอาวาสวัดดังย่านลำลูกกา ยืมเงินเกือบ 10 ล้าน นานกว่า 20 ปี ไม่ยอมคืน แถมวางกุญแจโบสถ์ค้ำประกัน พร้อมท้าให้ไปยึดโบสถ์และศาลาเอาเอง เมื่อครบสัญญาคืนเงิน จึงมาปรึกษาสายไหมต้องรอดว่าสามารถยึดโบสถ์ได้จริงหรือไม่ เพราะตอนนี้เดือดร้อนมาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่วัดพืชอุดม ม.9 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พระอธิการสมบูรณ์ สิริปุญฺโญ (บุญศรี) เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังกลับจากการพบแพทย์จากการรัดษาดวงตาที่อักเสบว่า โยมคนดังกล่าวได้เดินทางมาทำบุญที่วัดนานกว่า 13ปี ตามที่เขาบอก โดย 13 ปีที่ผ่านมาเวลามีกิจกรรมทำบุญในวัดเมื่อเขารู้ข่าวก็จะมาช่วย เมื่อบวชเณรก็จะมาช่วยเรื่องอาหาร มีกฐินก็มาช่วย ประเด็นที่อ้างว่าอาตมามีการยืมเงินเขาการยืมเงินต้องมีเอกสารหลักฐานการกู้ยืมไม่มีเอกสารใดๆจะพูดว่าเป็นการกู้ยืมไม่ได้หลอก ให้เขาเอกสารมาว่าเราเซ็นกู้ยืมมันก็ไม่มี นั้นก็ถือว่าการมาวัดคือการทำบุญ เงินจำนวนทั้งหมดถือเป็นการทำบุญตามจิตที่เป็นกุศลของเขาเองมันไม่มีหนังสือกู้ยืม หากมีหนังสือกู้ยืมก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายคือต้องจ่ายให้เขา โดยในวันพรุ่งนี้คณะสงฆ์ก็จะมาสอบตนเองที่วัด

ในส่วนประเด็นที่ว่าอาตมายื่นกุญแจโบสถ์ให้เพื่อค้ำประกัน อันนี้ไม่เป็นความจริงและโบสถ์ที่นี่ไม่มีกุญแจ ในส่วนส่วนของประเด็นโยมที่บอกว่าเป็นเจ้าหนี้อีกคนนั้น โยมคนนี้เป็นคนที่มาช่วยทางวัดมีกิจการบวงสรวงเทวดา ให้เขามาช่วยจัดเครื่องบวงสรวงไม่เคยมีการยืมเงินเขา ต้องยืนยันว่าตนเองไม่ได้ยืมเงินใคร เพราะไม่มีเอกสารการกู้ยืม ทางวัดไม่อยากให้เรื่องราวมันดีฉาวโฉ่พยายามอดทนมาตลอด โดยเจ้าตัวก็จะมากล่าวหาเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ ทางตัวอาตมาก็เฉยเพราะไม่มีหนังสือกู้ยืม เขาพยายามใช้เหตุการณ์ต่างๆมาบีบบังคับ โดยโยมที่มีปัญหานั้นทำบุญบ่อยเมื่อรู้ข่าวก็จะเดินทางมาและมีการทำบุญแบบโอนเงินเข้าบัญชียืนยันไม่เคยกู้ยืมเงินจากใคร

เศรษฐินีร้อง ‘เจ้าอาวาสวัดดัง’ ยืมเงินไป 10 ล้าน วางกุญแจโบสถ์ค้ำประกัน-เตรียมยึดจริงหากทำได้

กรณีโยมคนดังกล่าวที่อ้างว่าอาตมามีการทำร้ายร่างกายบีบคอใช้เท้ายัน อาจมายืนยันว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อนที่กุฎิของอาตมา โดยวันนั้นอาตมานั่งอยู่ที่โต๊ะโยมดังกล่าวเข้ามาในกุฎิและมาพูดคุยมาทวงเรื่องเงิน แต่ความจริงไม่ใช่เพราะมันไม่มีหนังสือกู้ยืมเงิน และจะเข้ามามาทำร้ายจึงใช้เท้ายันไปทีนี้พอหลุดจากการยันไป โยมคนดังกล่าวก็จับหัวอาตมาโขกกับผนังไม้จนทำให้ฉากไม้บังตาหลังโต๊ะที่นั่งได้รับความเสียหายเป็นรูโหว่ เพราะถูกจับศีรษะโขก 2-3 ที

ยืนยันว่าเมื่อเห็นความไม่ปลอดภัยจะเข้ามาจึงต้องป้องกันตนเองโดยใช้เท้ายันไป 1 ที เป็นพระไม่อยากจะพูดๆไปก็เสียหายสำหรับเรื่องดังกล่าวอาตมาไม่ได้แจ้งความ แล้วมาช่วงหลังนี้โยมคนดังกล่าวได้ขอคืนสิ่งของที่ถวายทำบุญมา ก่อนหน้านี้อะไรที่ยังคืนได้อาตมาก็คืนไป เรื่องเล็กๆน้อยๆอาจจะไม่ใช่ความจริง แต่ถูกแพร่ออกไปด้วยความมันของข่าวทำให้เกิดความเสียหายในทางศาสนา ความไม่หวังดีของคนต่างศาสนาที่จะฉวยอากาศนี้สร้างความเสื่อมเสีย ต้องระมัดระวังอย่าให้โยมชาวพุทธเสื่อมศรัทธาในความเชื่อมั่นที่มีของศาสนาต้องระมัดระวัง บางทีข่าวไม่จริงทั้งหมดเวลาออกข่าวไปแล้วจะแก้อย่างไร

ทางด้านผู้ช่วยเจ้าอาวาสไม่ขอเผปิดเผยชื่อ เปิดเผยว่า สำหรับโยมผู้หญิงดังกล่าวมาวัดประจำปกติ แล้วคนเราหากมีการยืมเงินกันมาเป็น 10 ปี หากหลวงพี่จะยืมโยมๆเรื่อยๆ จะให้หรือไม่ คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการอุปโลก มันผิดสังเกตุการยืมเงินเป็นแสนๆยืมไม่เคยคืน มันผิดวิสัยคนมีสตางค์ หากคนมีสตางค์เมื่อให้ยืมมาแล้วไม่ใช้แล้วใครเขาจะให้ยืมอีกเพราะของเก่ายังไม่ใช้ และมามีเรื่องด้วยเหตุใดตนเองไม่รู้ โยมผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยพูดคุยกับตนเอง เพราะตนเองเป็นคนตรงๆพูดแบบตรงไปตรงมา เรื่องที่เกิดขึ้นท่านเจ้าอาวาสก็ไม่เคยบอกตนเอง และตนเองก็ไม่อยากรู้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับวัด เป็นเรื่องของบุคคล.