เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะชุมชนริมคลอง ริมแม่น้ำสายต่างๆ ถนนในชุมชนริมแม่น้ำเริ่มถูกตัดขาด โดยล่าสุดได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่ง จำนวน 6 อำเภอ 63 ตำบล 294 หมู่บ้าน 8 ชุมชน 8,493 ครัวเรือน ได้แก่ 1. อำเภอเสนา รวม 7 ตำบล 48 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 2,469 ครัวเรือน 2. อำเภอบางบาล รวม 12 ตำบล 52 หมู่บ้าน 1,142 ครัวเรือน 3. อำเภอผักไห่ รวม 12 ตำบล 68 หมู่บ้าน 1,908 ครัวเรือน 4. อำเภอบางไทร รวม 21 ตำบล 78 หมู่บ้าน 2,110 ครัวเรือน 5. อำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 214 ครัวเรือน 6. อำเภอบางปะอิน รวม 7 ตำบล 16 หมู่บ้าน 650 ครัวเรือน
ที่ชุมชนหัวแหลม หมู่ที่ 4 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และปริมาณน้ำในคลองเมือง ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณสูงขึ้น ล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านจำนวนหลายหลังคาเรือน
นายอามีน ชุมพร อายุ 74 ปี เผยว่า น้ำท่วมมาแล้ว วันนี้เข้าสู่วันที่ 4 ตอนนี้ขึ้นมา 30-40 เซนติเมตร ท่วมชั้นล่างของบ้าน น้ำจะขึ้นสูงในตอนกลางคืน และลงบ้างในช่วงตอนบ่ายๆ ตามน้ำขึ้นน้ำลงน้ำทะเลหนุน ต้องเฝ้าติดตามการระบายน้ำอยู่ตลอด เตรียมหาอุปกรณ์มาหนุนเก็บข้าวของเครื่องใช้ ต้องหนุนให้สูงขึ้นอีก ถ้ายังมีการระบายน้ำในอัตราที่สูงกว่า 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ปีที่ผ่านมาก็ท่วม ปี 2565 ท่วมหนักมากถึงขอบหน้าต่างชั้นที่ 2 ต้องมาเก็บล้างซ่อมแซมทาสีบ้านกันอีก
“มีช่วงหนึ่ง น้ำเหนือยังมาไม่ถึงปล่อยอยู่ 1,000 ลบ.ม. น้ำหน้าเขื่อนลดลงแล้ว แทนที่จะปล่อยยาวไปเพื่อให้น้ำหน้าเขื่อนรอน้ำเหนือมา กลับถอยลงไปปล่อยที่ 400 ลบ.ม. ไม่เข้าใจวิธีบริหารจัดการว่าทำกันอย่างไร พอมาเร่งปล่อยๆ น้ำทะเลก็หนุน 2-3 รอบ น้ำก็ดันระบายลงอ่าวไทยไม่ได้” นายอามีน กล่าว.