วานนี้ (3 ก.ย. 2567) สำนักงานอัยการจากหมู่บ้านฟอเรสต์พาร์ค เขตคุกเคาน์ตี รัฐอิลลินอยส์ ตั้งข้อห้า รานนิ เอส. เดวิส ชายหนุ่มวัย 30 ปี จากเมืองชิคาโก หลังจากที่ตำรวจจับกุมตัวเขา ในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาทั้ง 4 กระทง เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจากการลงมือของเขาทั้งหมด 4 ราย
คดีดังกล่าวนับว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญ โดยในเช้าตรู่ของวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา มีผู้พบร่างของผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง ได้แก่ เอเดรียน คอลลินส์ วัย 60 ปี และมาร์กาเรต เอ มิลเลอร์ วัย 64 ปี มีบาดแผลโดนยิงที่ศีรษะ นอกจากนี้ยังมีร่างของ ไซเมียน บิเฮซี วัย 28 ปี มีบาดแผลโดนยิงหลายแห่ง ส่วนเหยื่อรายที่ 4 ซึ่งยังไม่สามารถระบุนามได้ มีบาดแผลโดนยิงหลายแห่งเช่นกัน
จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้เสียชีวิตทุกรายกำลังหลับอยู่บนรถไฟตอนที่โดนยิง โดยพวกเขาไม่ได้อยู่ในตู้โดยสารเดียวกัน เหยื่อ 3 ราย เสียชีวิตในทันที ส่วนเหยื่อรายที่ 4 ซึ่งยังระบุชื่อไม่ได้นั้น ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล รายงานข่าวระบุว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทั้งหมดเป็นคนไร้บ้าน
ร.ต.ท.แดเนียล พาเตอร์ จากหน่วยตำรวจเขตฟอเรสต์พาร์ค กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า หลักฐานจากการตรวจสอบวิถีกระสุนที่ได้จากปืนที่ผู้ต้องสงสัยพกติดตัวขณะถูกควบคุมตัวนั้น ตรงกับหลักฐานที่พบในรถไฟที่เกิดเหตุ
ร.ต.ท.พาเตอร์ กล่าวว่า ปืนของผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นปืนพกขนาด 9 มม. ถูกยิงออกไป 6 นัด โดยมี 5 นัด ที่ถูกยิงในตู้โดยสารตู้แรก และอีก 1 นัด ถูกยิงในตู้โดยสารตู้ที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่สามารถเก็บหลักฐานปลอกกระสุนปืนไว้ได้ครบทั้งหมด
คิมเบอร์ลี ฟ็อกซ์ อัยการประจำเขตคุกเคาน์ตี แถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ผู้ต้องสงสัยยืนค้ำร่างของผู้ตายที่สี่ แล้วใช้ปืนจ่อยิงใส่พวกเขา โดยคาดว่าเป็นการเลือกเหยื่อแบบสุ่ม
เหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. บนรถไฟสายสีน้ำเงินของชิคาโก ที่กำลังแล่นมายังสถานีฟอเรสต์พาร์ค ส่วนผู้ต้องสงสัยโดนจับกุมบนรถไฟสายสีชมพู หลังจากที่มีการประกาศรูปพรรณสัณฐานของผู้ต้องสงสัยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ามีพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์อีก 1 คน ซึ่งกำลังตามหาตัวกันอยู่
ผู้ต้องสงสัยมีกำหนดการขึ้นศาลในบ่ายวันนี้ (4 ก.ย. 2567) ทางเจ้าหน้าที่เชื่อมั่นว่าคดีมีหลักฐานอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบนรถไฟ แต่แรงจูงใจในการก่อเหตุนั้นยังไม่ชัดเจน
ที่มา : nbcnews.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES