เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายกรณิศ บัวจันทร์ ผอ.เขตราชเทวี เปิดเผยถึงกรณีนักเรียน ป.1 ในพื้นที่เขตราชเทวี โดนครูต่างชาติตีที่บริเวณหู ทำให้ไม่อยากมาโรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองได้มีการแจ้งเรื่องผ่านเพจดัง และแจ้งความที่ สน.พญาไท ว่า หลังทราบเรื่อง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าทางโรงเรียนได้เรียกครูต่างชาติซึ่งเป็นผู้หญิงมาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังมีข้อมูลไม่ตรงกันกับข้อมูลที่เด็กบอกเล่าให้ผู้ปกครองทราบ


ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยมี ผช.ผอ.เขตราชเทวี เป็นประธานคณะกรรมการฯ และมี ผอ.โรงเรียน ร่วมอยู่ในคณะกรรมการฯ ด้วย กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากพบว่าทำผิดจริง ก็ต้องเลิกสัญญาการจ้างเพราะเป็นครูอัตราจ้าง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในห้องเรียนที่เกิดเหตุตามคำบอกเล่าของเด็กนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ด้านนอกห้องเรียนตามทางเดิน มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ 


ส่วนครูต่างชาติรายนี้ โรงเรียนได้ให้หยุดปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราวจนกว่าการสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ ระหว่างนี้ได้ให้ครูคนไทยเข้ามาสอนแทนแล้ว เพื่อความต่อเนื่องในการเรียนการสอน ทั้งนี้ ในส่วนของการสอบปากคำฝั่งเด็ก และพยานแวดล้อมนั้น มีการประสานสหวิชาชีพร่วมด้วย และการแจ้งความดำเนินคดีอาญานั้น ขณะนี้ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้ว ต้องให้ทาง สน.พญาไท ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป


ผอ.เขตราชเทวี เผยต่อว่า ในส่วนของเด็กนักเรียนนั้น เนื่องจากศึกษาอยู่ชั้น ป.1 แต่หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่กล้ามาเรียน ทาง ผอ.โรงเรียนและครูประจำชั้น ได้เข้าเยี่ยมที่บ้านพักแล้ว เพื่อสอบถามถึงอาการป่วยและสภาพจิตใจเด็ก พร้อมทั้งพูดคุยกับผู้ปกครอง ซึ่งทราบว่าทางผู้ปกครองก็ไม่ได้กล่าวโทษว่าเป็นความผิดของโรงเรียนแต่อย่างใด แต่ขณะนี้เด็กยังมีความหวาดกลัว จึงยังไม่ได้กลับมาเรียน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การเรียนต่อเนื่องในระยะนี้ที่เด็กยังพักรักษาตัวนั้น ทางคุณครูก็จะนำการบ้าน ใบงานวิชาต่างๆ ไปให้เด็กได้ฝึกทำ เมื่อกลับมาเรียนอีกครั้งจะได้เข้าใจ รวมทั้งจะติดตามผลอย่างต่อเนื่อง.