เมื่อวันที่ 4 ก.ย. เวลา 10.35 น. ที่รัฐสภา นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะ รมช.สาธารณสุข แถลงโต้ตอบกรณีสื่อมวลชนบางสำนักพาดพิงตนเกี่ยวข้องกับประเด็นจริยธรรมต่างๆ ว่า สำหรับข้อกล่าวหาว่าตนพัวพันกับนายเตียว วุย ฮวด หรือ “โทนี่ เตียว” ว่าเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่มาจากมาลาเซีย แล้วเข้ามาอยู่ในจังหวัดสงขลาร่วม 10 ปี ลงทุนเป็นพันล้านบาท ทั้งแม่ทัพภาค 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำเภอสะเดา ก็ไปอำนวยความสะดวก ตนเป็นคนสงขลา เมื่อนักธุรกิจมาลงทุนก็มีหน้าที่อำนวยความสะดวก แต่เราก็มีเงื่อนไขว่าต้องมาอย่างถูกกฎหมาย ไม่กระทำผิดกฎหมายไทยใดๆ ทั้งนี้ นายโทนี่ เตียว รู้จักกับตนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เขาไปบวช ตนก็ไปร่วมพิธีบวชด้วย ตามวิญญูชนคนสงขลาทั่วไป ดังนั้น ตนและนายโทนี่ เตียว ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ภายหลังทราบว่าเขาทำผิดกฎหมายที่ประเทศจีน วันนี้จึงถูกจับแล้วส่งตัวไปประเทศจีน ถ้าทำผิดกฎหมายไทย ไทยจะส่งตัวไปจีนไม่ได้ แต่จะต้องรับโทษในประเทศไทยก่อน

นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ส่วนข้อกล่าวหาใน ป.ป.ช. นั้น ตนเพิ่งไปเช็กข่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อปี 55 ซึ่งขณะนั้นไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ จึงสงสัยว่า ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ได้อย่างไร และทราบว่าผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีโดนสั่งฟ้องไปหมดแล้ว แต่ชื่อตนอาจไปอยู่ในกลุ่มไลน์ผู้ต้องหา เขาก็ส่งรายชื่อเหล่านี้ไปตรวจสอบ และตนได้ทำหนังสือไปยัง ป.ป.ช. ขอให้ส่งรายละเอียดมาให้ด้วย โดยทาง ป.ป.ช. ตอบกลับว่าอยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่สามารถส่งข้อมูลให้ได้

นายเดชอิศม์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด ยืนยันว่าไม่เคยต้องคดีอาญาใดๆ ไม่ว่าจะฆ่าคนตาย ค้ายาเสพติด เพราะถ้ามีคดีเหล่านี้ จะต้องมีหมายเรียกหรือหมายจับ ต้องรายงานตัว พิมพ์ลายนิ้วมือ ชีวิตตนมีคดีเดียว คือคดีการเลือกตั้งที่นายนวพล บุญญามณี เป็นผู้ฟ้อง สมัยเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา สุดท้ายศาลยกฟ้อง เพราะฉะนั้นอยากฝากถึงสื่อมวลชน จริยธรรมนักการเมืองก็สำคัญ แต่จริยธรรมของสื่อมวลชนก็เป็นเรื่องสำคัญมาก

“ผมมีลูก มีภรรยา มีเพื่อนฝูง ผมมาจากการเลือกตั้งของประชาชน พี่น้องชาวสงขลาเลือกมาเป็นอันดับหนึ่งทั้ง 2 สมัยติดต่อกัน เพราะฉะนั้นถ้าผมเกี่ยวพันในลักษณะนี้ พี่น้องที่เลือกผมก็เสียหายไปด้วย ครอบครัวผมก็เสียหายยับเยินอยู่แล้ว อยากชี้แจงว่าไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรใดๆ เลย ขอพูดตรงนี้ คนค้ายาเสพติดเป็นคนชั่วช้าสามานย์ คบไม่ได้ แต่คนที่ไม่ค้ายา ถูกคนใดคนหนึ่ง สื่อสำนักใดสำนักหนึ่งทำให้คนเข้าใจว่าค้ายา คนพวกนี้เลวร้ายกว่าผู้ค้ายาเสียอีก เพราะเป็นการทำร้ายคนและสังคม ตรงนี้ผมขอความยุติธรรมด้วย เพราะผมไม่เคยเกี่ยวข้องและไม่มีด้วย” นายเดชอิศม์ กล่าว

เมื่อถามว่า ป.ป.ช. เคยเรียกไปให้ข้อมูลหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่าไม่เคยไป ป.ป.ช. หรือแม้แต่ดีเอสไอ หรือขึ้นโรงพัก ในชีวิตโดนฟ้องคดีเดียวตามที่กล่าวข้างต้น แต่สุดท้ายก็ยกฟ้องไปแล้ว ถามอีกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเบื้องหลังหรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เชื่อว่ามีขบวนการอยู่ข้างหลัง เพราะจ้องมาที่ตนและนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. เป็นพิเศษ

เมื่อถามถึงกรณีหลังส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้ตรวจสอบ สำนักงานกฤษฎีกาตอบกลับหรือไม่ อย่างไร นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ไม่ได้ตอบกลับ ตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรเลย แต่สังคมมองตนไม่ดีเลย

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ต้องดูว่ากรณีใดเข้าข่ายผิดกฎหมาย ตนก็ต้องรักษาสิทธิฟ้องดำเนินคดีบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง

เมื่อถามเสริมว่าหากฟ้องคดีจะฟ้องตัวนักข่าวหรือสำนักข่าว นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนสงสารนักข่าวบางคน บางทีเขาไม่ใช่คนชั่ว แต่เขาถูกให้ชั่วโดยเจ้านายสั่ง แต่บางคนก็ชั่วโดยสันดานก็มีเช่นกัน หากเขาไม่มีเจตนาชั่วจริง ตนก็ไม่ต้องการฟ้องใคร นอกจากนี้ นายเดชอิศม์ยืนยันว่าพรรคส่งชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีไปเพียง 2 คน ไม่มีส่งชื่อสำรองไปด้วย และนายเฉลิมชัย ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีเพียงสำนักข่าวเดียวที่ถล่มตนและนายเฉลิมชัย