เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ชั้น 4 อาคารศูนย์ราชการฯ (อาคาร B) ถนนแจ้งวัฒนะ MS. VANMANY PHONSAVANH หรือ ลิลลี่ เหงียน นางแบบชื่อดัง และน.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี อายุ 45 ปี นางแบบชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) หลังถูกมิจฉาชีพนำภาพและชื่อไปทำเฟซบุ๊กปลอมไปหลอกลวงประชาชน ทำให้เสียชื่อเสียง

ลิลลี่ เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้เพราะมีความเดือดร้อนกังวลใจเนื่องจากพบว่ามีเพจเฟซบุ๊กปลอม ที่ปลอมทั้งชื่อและภาพของตน พร้อมเบอร์ติดต่องานของผู้จัดการที่เป็นเบอร์จริง โดยมีเพจปลอมรวมแล้วกว่า 50 เพจ ที่มีการนำไปโปรโมตเว็บพนันออนไลน์ หวยใต้ดิน ดูหมิ่นเบื้องสูง วิจารณ์เกี่ยวกับการเมือง และนำภาพไปตัดต่อเป็นภาพโป๊เปลือย จึงเข้าแจ้งความบันทึกประจำวันที่ บก.สอท.1 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เนื่องจากตนไม่เคยทำผิดกฎหมายและจะไม่ทำเด็ดขาด

ลิลลี่ เผยอีกว่า ขณะนี้มีแฟนคลับของตนหลงเชื่อเเละเสียหายแล้วประมาณ 3-4 ราย ส่งข้อความมาบอกว่า “ทำไมลิลลี่หลอกลวง อุตส่าห์เชื่อใจไปลงทุนกับเว็บพนัน” ซึ่งเสียเงินไปแล้วประมาณหลักพัน-หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับบางรายตั้งคำถามว่าทำไมตนถึงรับงานถ่ายภาพโป๊เปลือย ซึ่งเห็นภาพแล้วก็ตกใจ จึงอยากฝากถึงแฟนคลับทุกคนว่าอย่าไปหลงเชื่อเว็บพนันและยืนยันว่าไม่เคยรับงานผิดกฎหมายใดๆ รวมไปถึงรับถ่ายแบบโป๊เปลือย ทั้งนี้อยากฝากถึงมิจฉาชีพอย่าทำร้ายตนเลย พร้อมยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

ทนายกุ้ง กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อแจ้งความขอให้ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ สืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิด โดยเข้าข่ายความผิด ทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และ มาตรา16 นอกจากนี้ตนยังคิดว่ามีผู้กระทำความผิดแบบนี้อีกเป็นจำนวนมาก และคนที่ได้รับผลกระทบหรือเสียหายมักเป็นคนมีชื่อเสียง จึงอยากให้ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ได้จัดการผู้กระทำผิดต่อไป

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบประมาณ 50 URL ที่ปลอม ในวันนี้ตนจะสั่งการให้ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ทำการตรวจสอบว่า 50 URL ดังกล่าวว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงอวตารเท่านั้น หากพบว่ามีตัวตนจริง ทางตำรวจไซเบอร์ก็จะไม่ปล่อยไว้และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จากนั้นก็จะส่งเรื่องไปยัง Facebook Thailand ให้ตรวจสอบว่าจะปิดเพจดังกล่าวหรือไม่ ในส่วนตรงนี้จะใช้เวลามากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ Facebook Thailand ทั้งนี้หากประชาชนคนใด ถูกปลอม Facebook ให้รีบแจ้งความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป