เมื่อวันที่ 4 ก.ย.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ในการประชุมดังกล่าวได้มีการสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 พร้อมการประชุมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้หัวข้อ “พลิกโฉมการศึกษาในยุคดิจิทัล” (Transforming Education in the Digital Era) ที่จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23-27 ส.ค. ซึ่งตนได้ฝากให้ที่ประชุมต่อยอดขยายผลการประชุมดังกล่าว เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในมิติการศึกษาอย่างทั่วถึง พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้จัดงานดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการติดตามการขับเคลื่อนการยกระดับโครงการประเมินนักเรียนระดับนานานชาติ หรือพิซา ซึ่งได้มีการรายงานผลการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยตนได้ย้ำเรื่องของรความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี เนื่องจากการทดสอบพิซาจะใช้คอมพิวเตอร์ในการดำเนินการทดสอบ ดังนั้นอยากให้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ในสองมิติ คือ สถานศึกษาที่มีความพร้อมและไม่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงระบบเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตของโรงเรียนด้วย เพื่อให้พร้อมต่อการทดสอบพิซาและครอบคลุมทุกกลุ่มโรงเรียน อย่างไรก็ตามเรื่องการขับเคลื่อนพิซาในปีนี้ที่เราเตรียมความพร้อมนักเรียนและครูครอบคลุมทุกด้านทำให้ตนเชื่อว่าการสอบพิซาปี 2025 ผลคะแนนการทดสอบของนักเรียนไทยจะขยับดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

“ในการประชุมดกล่าวผมได้ติดตามการเรื่องค่าสาธารณูปโภคของสถานศึกษาที่มีการตังคณะทำงานขับเคลื่อนในเรื่องนี้ โดยได้รับรายงานว่ามีการวางแนวทางลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคของสถานศึกษา โดยเฉพาะหมวดค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งในส่วนของค่าไฟฟ้าเราพบสถานศึกษาหลายแห่งมียอดการใช้ไฟที่สูงมาก และสถานศึกษาบางแห่งยังค้างชำระค่าสาธารณูปโภคอยู่ ซึ่งในเบื้องต้นอาจทำความร่วมมือกับหน่วยงานผู้ให้บริการในการขอลดหย่อนการจ่ายสาธารณูปโภคของสถานศึกษาลงในอัตราราคาที่เหมาะสม เพราะถือว่าสถานศึกษาเป็นหน่วยให้บริการสาธารณะเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันยจะยังมีแนวทางทำความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการติดตั้งโซลาเซลล์ในสถานศึกษาให้มากขึ้น เพราะจะได้ประหยัดงบประมาณและประหยัดพลังงานด้วย ดังนั้นเราจะมีการผลักดันให้เกิดการใช้งานพลังงานทดแทนในสถานศึกษาทุกพื้นที่ให้มากขึ้น” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวและว่า ทั้งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมยังได้มีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการอาคารเรียน 212 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างในเขตแผ่นดินไหวโรงเรียนชุมชนบ้านอุ้งผาง จ.ตาก