รายงานสถานการณ์ขยะในประเทศไทยประจำปี 2566 ระบุว่า ประเทศไทยสร้างขยะมูลฝอยเกิดขึ้น ประมาณ 26.95 ล้านตันต่อปี หรือราว 73,840 ตันต่อวัน คิดเป็นเฉลี่ย 1.12 กิโลกรัมต่อวันต่อคน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่มีปริมาณขยะมูลฝอยอยู่ที่ 25.70 ล้านตัน พบว่าเราสร้างมลพิษเพิ่มขึ้นถึง 5% ต่อปี

ขยะเหลือใช้ หรือขยะที่ถูกทิ้งให้หมดประโยชน์ ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดมลพิษทางดิน นํ้า และอากาศเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับชุมชนและประเทศ ดังนั้น ก่อนที่ “ปัญหาขยะ” จะก่อตัวเป็นภัยคุกคามอันร้ายแรง และกัดกินการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะสัตว์ พืช หรือมนุษย์เรา ไปเรื่อย ๆ
ทุกภาคส่วนจะต้องตระหนักถึงความสำคัญและร่วมมือกันแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด

ล่าสุด “สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย” ร่วมกับ “บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้” (ประเทศไทย) และศิลปินชื่อดัง “วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์” ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุเหลือใช้ เปิดกิจกรรมความยั่งยืนครั้งสำคัญ อย่าง “IONIQ Waste to Wonder” เป็นการแสดงศักยภาพเชิงสร้างสรรค์ของกระบวนการรีไซเคิล ที่ผนวกเข้ากับงานศิลป์ ตั้งแต่การสร้าง “หมีขนม” ที่ประดิษฐ์จากขวดพลาสติก 10,000 ขวด และบรรจุภัณฑ์ขนม 10,500 ชิ้น ไปจนถึงกิจกรรมเวิร์กช็อป “The Art of Upcycling” การประดิษฐ์ของจากวัสดุเหลือใช้ ซึ่งเป็นการส่งต่อแนวคิดหลักของกิจกรรมที่ว่า “ไม่มีสิ่งใดไร้ค่า” และ “เราทุกคนทำได้”

“วัลลภ เฉลิมวงศาเวช” กรรมการผู้จัดการ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือด้านศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจกับ WISHULADA ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการสร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างจริงจัง โดยกิจกรรมที่จัดขึ้น ณ IONIQ Lab แห่งนี้ เป็นศูนย์กลางแห่งการสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และการพัฒนานวัตกรรมที่ลํ้าสมัยของฮุนได ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน”

ด้าน “วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์” ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน เชื่อว่า “การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และใช้แผนงานเชิงกลยุทธ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงระดับการบริโภค ถือเป็นสิ่งสำคัญในการลดขยะ และสร้างความก้าวหน้าด้านความยั่งยืน ส่วนการหมุนเวียนวัสดุเหลือใช้ กลับมาใช้งานใหม่ในแนวทางที่ครอบคลุม จะช่วยลดปริมาณขยะได้เป็นอย่างมาก ซึ่งการจัดการขยะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราทุกคน ถือเป็นปัญหาที่มีความท้าทายอย่างมากในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือเราทุกคนต้องรับรู้ว่าตัวเองต่างมีบทบาทในการอนุรักษ์ และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งถ้าเราร่วมมือกันและใช้ทรัพยากรอย่างมีสติ ก็จะสามารถสร้างความแตกต่างเชิงบวกให้กับโลกใบนี้ได้อย่างแน่นอน”.