เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระที่สอง เข้าสู่มาตรา 9 กระทรวงการคลัง วงเงิน 12,277,724,500บาท นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า อยากเตือนรัฐบาลหลายเรื่องที่ทำไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ ตลาดทุนไทยล้มเหลว คนที่หลงเชื่อคำประเมินตลาดหลักทรัพย์เจ๊งหลายราย แต่คนปั่นหุ้นไม่มีใครติดคุกแม้แต่คนเดียว เรื่องธรรมาภิบาลต้องผ่าตัด มีการตีความหลักนิติธรรมให้คุณแก่ผู้ทำผิดมากกว่านักลงทุน กระทรวงการคลังทำแบบเดิมๆ ยังไม่เห็นงบปี 2568 จะมีงบสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย สร้างความมั่นคงในชีวิต การแจกไม่ได้ทำให้หายจน ไม่เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน รมว.คลัง ต้องอ่านข้อเสนอแนะของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) จะตรงเป้าแก้ปัญหาประเทศมากกว่า อยากให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง อยู่นานๆ ฝากถึงรมว.คลัง ให้ฟังจิ้งจกตุ๊กแก และฝ่ายค้านบ้าง หลังจากอภิปรายครบถ้วนแล้วที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา9 ด้วยคะแนน 280ต่อ151งดออกเสียง2
จากนั้นเข้าสู่มาตรา 10 กระทรวงต่างประเทศ วงเงิน 4,893,467,200บาท น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน อภิปรายว่า อยากให้กระทรวงต่างประเทศแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ปัจจุบันยังมีเด็กอายุต่ำกว่า 18ปี ถูกคุมขัง รวมถึงการยุบพรรคการเมืองในไทยมีแถลงการณ์จากต่างชาติ วิพากษ์วิจารณ์มาตลอด ควรแก้ไขเรื่องสิทธิมนุษยชนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่ใช่มาตรฐานแบบไทยๆ ขณะที่นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า ขอตัดลดงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์ในส่วนกระทรวงต่างประเทศ 11.6ล้านบาท จาก 76 ล้านบาท บทบาทกระทรวงต่างประเทศ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ควรเป็นแค่ผู้ประสานงาน ไม่ควรมาตั้งงบประมาณดังกล่าว ปล่อยให้กระทรวงที่มีหน้าที่โดยตรง อย่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการจะเหมาะสม ประหยัดงบประมาณและรีดไขมันได้มากกว่า จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา10 ด้วยคะแนน 284 ต่อ 148 งดออกเสียง 2.