เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ย.ที่ตึกนารีสโมสร นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กแรกเกิดสัญชาติไทยที่บิดาหรือมารดามีสัญชาติ ไทย เกิดระหว่างวันที่ 1ต.ค. 2558 – 30 ก.ย. 2559 และอยู่ในครัวเรือนยากจนหรือเสี่ยงต่อความยากจนรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี โดยอุดหนุนรายละ 400 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี และครม.มีมติเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2559 เห็นชอบขยายระยะเวลาการให้เงินอุดหนุนตั้งแต่แรกเกิดจนครบอายุ 3 ปี (36 เดือน) และเพิ่มวงเงินจากรายละ 400 บาท เป็นรายละ 600 บาท

นายศึกษิษฏ์ กล่าวต่อว่า ครม.มีมติเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่แรกเกิด – 6 ปี และขยายฐานรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ต่อปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณพ.ศ. 2562 โดยให้กลุ่มเป้าหมายเด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป รายละ 600 บาท โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบ ทำให้มีจำนวนผู้มาลงทะเบียนขอรับสิทธิเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบอุดหนุนเฉพาะกิจ (เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด) เพื่อเบิกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุน จำนวน 2,556,723 รายเป็นเงิน 16,494,605,600 บาท เงินกันเหลื่อมปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี่ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวนเงิน 9,000 บาท รวมเป็นเงิน 16,494,614,600 บาท และชดใช้เงินยืมทดรองราชการ จำนวน 148,731,000 บาท คงเหลือ จำนวน 16,345,883,600 บาท

นายศึกษิษฏ์ กล่าวอีกว่า  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ขอรับ การสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 1,302,466,400 บาท โดยโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นนโยบายสำคัญระดับชาติ มุ่งเน้นให้เด็กแรกเกิด ได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ และมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพื่อเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคตส่งผลให้ครอบครัวของเด็กแรกเกิดได้รับความเดือดร้อน ส่งผลให้เด็กไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพและเหมาะสมตามวัย.