เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ642/2565 หมายเลขแดงที่ อ1109/2565 ที่พนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู ยื่นฟ้องนายไพบูลย์ แสงเดือน จำเลย ฐานความผิด พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย
กรณี น.ส.มิรา ชลวิรัลวานิศร์ ภรรยาเก่าเป็นผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำคุก 8 ปี ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม 350,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว จนกว่าจะชำระเสร็จ ค่าฤชาธรรมเนียมให้คดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ
วันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวแก่โจทก์ร่วมนับแต่วันที่ 26 ก.ค. 65 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวให้ปรับลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามพระราชกฤษฎีกากำหนดซึ่งออกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตามที่โจทก์ร่วมขอ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ต่อมาภายหลังฟังคำพิพากษา นายไพบูลย์ มีการยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว ศาลชั้นต้นพิจารณาส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาประกัน จากนั้นเจ้าหน้าราชทัณฑ์คุมตัว นายไพบูลย์ ไปคุมขังยังเรือนจำ เพื่อรอผลพิจารณาประกันของศาลฎีกา ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาพิจารณา 1-3 วันทำการ.