สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ว่า สหรัฐกลายเป็นตลาดนำเข้าปลาน้ำจืด โดยเฉพาะปลาสวาย หรือแพนกาเซียสดอร์รี่ รายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567
สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (วีเอเอสอีพี) รายงานโดยอ้างสถิติจากศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ไอทีซี) ว่ามูลค่าการส่งออกปลาน้ำจืดของเวียดนามไปยังสหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ อยู่ที่ 184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,301 ล้านบาท) หรือราวร้อยละ 21 ของมูลค่ารวม
ขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกปลาน้ำจืดของเวียดนาม เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,061 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 69 เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้มูลค่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้แตะ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,507 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ปัจจุบัน สหรัฐเป็นตลาดส่งออกปลาน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับสองของเวียดนาม รองจากจีนและฮ่องกง โดยผลิตภัณฑ์ปลาสวายของเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐ ได้แก่ เนื้อปลาสวายแช่แข็ง, ปลาสวายแปรรูป, ปลาสวายแห้ง และผลิตภัณฑ์แช่แข็งอื่น รวมถึง การส่งออกที่ฟื้นตัวอาจเป็นผลมาจากการลดลงของสินค้าในคลัง เมื่อปีที่ผ่านมา
มากไปกว่านั้น การเตรียมการสำหรับเทศกาลและวันหยุดสิ้นปี ยังส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยมีคาดการณ์ว่า คำสั่งซื้อจากสหรัฐจะเพิ่มขึ้น ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี
ด้านมูลค่าการส่งออกปลาสวายของเวียดนามในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 สูงกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 37,653 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ครองส่วนแบ่งมากที่สุด ด้วยมูลค่า 313 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,713 ล้านบาท) ซึ่งลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับตัวเลขของปี 2566
ด้านกลุ่มประเทศสมาชิกข้อตกลงครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าระหว่างภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ถือเป็นตลาดส่งออกปลาสวายที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,306 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามมาด้วยสหภาพยุโรป (อียู) ที่มูลค่า 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,389 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเทียบเป็นรายปี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES