กรณีเกิดเหตุ นายนนทกร หรือกร อายุ 20 ปี นักศึกษาระดับ ปวส.1 วิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 เข้าร่างกาย 4 นัด เสียชีวิตนอนจมกองเลือด บนพื้นหน้าห้อง ภายในหอพักเอกชนบริเวณฝั่งตรงข้ามวิทยาลัย พื้นที่ ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง โดยมีอาวุธปืนแบลงค์กัน ชนิดแม็กกาซีนดัดแปลงสภาพสำหรับใช้กับกระสุนจริงของผู้ตายตกอยู่ใกล้ตัว 1 กระบอก เบื้องต้นทราบผู้ก่อเหตุคือ นายนฤเทพ (สงวนนามสกุล) หรือปิง คลองภาษี อายุ 17 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวช.2 วิทยาลัยเดียวกัน ชาว อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นรุ่นน้อง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ร่างพรุน! เร่งล่าตัวเยาวชนวัย 17 ปี ปืนโหด รัวยิงรุ่นพี่ ปวส.1 ดับสลดคาห้อง
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ตรัง อ.เมืองตรัง นายนฤเทพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ตรัง ที่ 8/2567 ลงวันที่ 2 ก.ย. 67 ตามความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง โดยมีแม่บุญธรรมพาเข้ามอบตัว หลังได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.กันตัง ก่อนจะมีการควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.พันธรักษ์ พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง (เจ้าของคดี) และนำตัวเข้าห้องขังเพื่อรอเบิกตัว นำมาสอบปากคำอย่างละเอียดพร้อมกับทีมสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำตัวเข้าห้องขัง ผู้ต้องหาและแม่บุญธรรมมีสีหน้าและแววตาเคร่งเครียด ก่อนจะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ถึงสาเหตุที่ลงมือว่า “ถ้าผมไม่ทำ ผมก็ตายครับ ปืนของเขาหมดเลยครับ” ส่วนแม่บุญธรรมผู้ต้องหา ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะมาประกันตัวลูกใช่ไหม ซึ่งแม่บุญธรรมพยักหน้า ส่วนวงเงินอะไรนั้นยังไม่ทราบ และยังไม่สบายใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพนักงานสอบสวนไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า พฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุผู้ตายชักชวนผู้ก่อเหตุ พร้อมเพื่อนๆ เข้ามานั่งดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมภายในห้องพักที่เกิดเหตุ โดยเข้ามาในหอพักพร้อมกัน ภายหลังจากเพื่อนคนอื่นๆ กลับไปแล้ว ยังคงเหลือแค่เพียงผู้ก่อเหตุและผู้ต้องหาอยู่ในห้อง ผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ตายได้กินยาอัลฟาโซแลมเข้าไปคู่กับน้ำต้มพืชกระท่อม ทำให้มีอาการเลอะเลือน ไม่มีสติ ก่อนนำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกของผู้ตาย ออกมาเล่น และเดินถือวนเวียนอยู่ภายในห้อง จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีการบันทึกคลิปเป็นหลักฐานไว้ กระทั่งผู้ก่อเหตุเผลอ ผู้ตายได้ใช้ปืนขนาด .38 ที่ถืออยู่มาจ่อเข้าที่ศีรษะผู้ก่อเหตุทำให้ไม่พอใจเลยมีการทะเลาะวิวาทกัน ก่อนยื้อแย่งปืนออกมาจากมือผู้ตายได้ 1 กระบอก แล้วกระหน่ำยิงเสียชีวิตดังกล่าว
พ่อผู้ตาย อายุ 49 ปี กล่าวว่า หลังได้ตัวคนก่อเหตุ ทางครอบครัวก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่งที่เขายอมมอบตัว แต่ไม่รู้สึกดีกับคำพูดที่ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์ไป เหมือนกับลูกเราผิด แต่มันผิดคนเดียวไม่ได้ คนทะเลาะกันมันต้องเป็นทั้ง 2 คนสิ มันจะมาโทษลูกผมเพียงคนเดียวไม่ใช่ แต่ใครจะผิดจะถูกตนไม่ได้ไปมอง แต่เมื่อลูกเสียชีวิตมันต้องมีโทษมีคนรับผิดชอบ เป็นคนใจเย็นมาก ถามว่าเสียใจไหมเสียใจ เพราะลูกชายเราคนเดียว แต่เมื่อมันเป็นแบบนี้เราต้องยอมรับและต้องให้คนผิดได้รับโทษ จะยังไงก็แล้วแต่คุณต้องรับโทษ ให้ความยุติธรรมกับเรา ไม่ต้องเอาอะไรมาแทรกแซงกัน ตนก็ได้ขอคัดค้านการประกันตัวกับทางตำรวจไปแล้ว แต่ถ้าหากทางศาลมองว่าเป็นเยาวชน จะให้ประกัน ก็ให้ประกันไป แต่ใจจริงๆ ก็ไม่อยากให้ศาลให้ประกันตัว ก็ต้องสู้กันเพราะยังไงเขาก็ผิด หลักฐานแน่น และเห็นว่าเขาไม่มีความรู้สึกกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะหลังจากก่อเหตุหลบหนี ยังโพสต์สตอรี่เฟซบุ๊ก เหมือนเยาะเย้ย อีกทั้งฝั่งผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้ประสานอะไรมา มีผู้ใหญ่บ้านติดต่อมา แต่ยังไม่เข้ามาที่งานศพ เข้ามาได้ตนก็ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ตนเป็นคนสูญเสีย คนที่อยู่เขาก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้เขาเป็นคนถูก