อาชีพครูเสมือน “เรือจ้าง” ที่จะพาเด็ก ๆ ข้ามเกาะออกไปสู่โลกกว้าง เพื่อให้พวกเขามีอนาคตที่สดใส “มนัดดา จิตนุกูล” ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองกำ เล่าถึงความตั้งใจด้วยความที่โรงเรียนบ้านคลองกำ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำกระบี่ ล้อมรอบด้วยป่าชายเลน ไม่มีสะพานข้าม แม้จะนั่งเรือข้ามฟากจากตัวเมืองเพียง 5 นาที แต่การที่เด็กจะออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่นอกเกาะก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก การประกอบอาชีพดั้งเดิมบนเกาะเลยแทบจะเป็นโมเดลเดียวที่เด็กหลายคนมองเห็น และยึดเป็นเป้าหมายแทนที่จะออกไปเรียนต่อในระดับสูง ๆ นอกเกาะ

ประจวบเหมาะกับโรงเรียนบ้านคลองกำได้รับคัดเลือกจาก “โครงการทิสโก้ร่วมใจ” โดยกลุ่มทิสโก้และผู้มีจิตศรัทธา ในการก่อสร้างอาคารเรียนทิสโก้ร่วมใจหลังที่ 11 คณะทำงาน ผู้บริหารโรงเรียน และตัวแทนผู้ปกครอง จึงลงความเห็นว่า นอกจากอาคารเรียนที่ปลอดภัยแล้ว จะดีกว่าหรือไม่ หากผู้ใหญ่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ได้ออกไปเปิดโลกทัศน์ที่กว้างไกลขึ้น

“โรงเรียนบ้านคลองกำเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หลังเรียนจบ ม.3 นักเรียนหลายคนเลือกอยู่อย่างพอเพียง เรียบง่าย ด้วยการช่วยพ่อแม่ทำประมงและรับจ้างทั่วไป ตามวิถีชุมชนแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีที่เด็ก ๆ จะช่วยผู้ปกครองทำมาหากิน แต่ครูอย่างเราก็มีหน้าที่ที่จะต้องผลักดันให้เขาได้ออกไปเห็นโลกที่กว้างขึ้น ได้เรียนสูง ๆ ไม่หลุดออกจากระบบการศึกษาเร็วเกินไป ได้รู้จักอาชีพใหม่ที่หลากหลายบนโลกยุคนี้ อยากให้เขามีเกราะป้องกันที่แข็งแรงเพียงพอที่จะรับมือกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงนี้ได้”

จุดนี้เป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์งานศิลปะบนกำแพง (Graf fiti) บนอาคารเรียนทิสโก้ร่วมใจ 11 โดยตั้งใจให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กบ้านคลองกำได้รู้จักอาชีพที่น่าสนใจและสามารถเป็นได้ในอนาคต เช่น วิศวกร หมอ/พยาบาล เกมเมอร์ นักฟุตบอล ผู้ให้คำปรึกษาทางการเงิน ยูทูปเปอร์ และบาริสต้า ไม่เพียงเท่านี้ยังวาดเด็กใส่ชุดอวกาศเพื่อสื่อถึงจินตนาการที่กว้างใหญ่ราวจักรวาลที่มีแต่ความพยายามจากการศึกษาเรียนรู้เท่านั้นที่จะคว้าฝันให้เป็นจริงได้  “เด็ก ๆ ให้ความสนใจและเข้ามามีส่วนร่วม สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ จุดประกายความฝันใหม่ของเด็ก ๆ ขึ้นมาทีละน้อย”

ด้าน ไพรัช ศรีวิไลฤทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสกลุ่มทิสโก้ เล่าว่า ทิสโก้ตั้งใจส่งมอบโอกาสทางการศึกษาด้วยการจัดสรรทุนก่อสร้างอาคารเรียนและมอบครุภัณฑ์แก่โรงเรียนขยายโอกาสที่ขาดแคลนทั่วประเทศ โดยโครงการทิสโก้ร่วมใจ 11 โรงเรียนบ้านคลองกำ ถือเป็นหนึ่งในนั้น อาคารหลังนี้มียอดบริจาค 12,134,100 บาท เกิดจากทุกคนร่วมแรงเทใจให้ได้มา ทั้งคณะทำงาน โรงเรียน ชุมชน ศิลปิน กระทั่งผู้รับเหมา เพราะด้วยความที่เป็นโรงเรียนบนเกาะการขนส่งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายและทุกอย่างมีต้นทุน แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือการได้เติมเต็มโอกาสด้านการศึกษา เพื่อต่อยอดอนาคตให้เด็กไทยได้ไปต่อ

ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ทุกคนช่วยกันอย่างไม่มีข้อกังขา เพื่อทำให้อาคารหลังนี้เสร็จสมบูรณ์ ทำให้เด็กได้มีอาคารเรียนที่ปลอดภัย และสร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้เรียนต่อ เพิ่มศักยภาพการศึกษาให้เขา แล้วเรายังอยากให้อาคารหลังนี้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน หรือเป็นจุดเช็คอินบนเกาะเพิ่มขึ้น” ไพรัช กล่าว และทิ้งท้ายว่า  การทำ CSR ไม่ใช่แค่การจ่ายเงินสนับสนุน มันต้องเห็นการร่วมแรงร่วมใจ มีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน และทำให้ทุกคนมีความสุข ซึ่งอาคารเรียนหลังนี้ตอบโจทย์ทุกอย่าง อันนี้คือผลตอบแทนจากการทำงาน CSR ของทิสโก้.