เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ขณะที่ พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ ศรีวิบูลย์ สว.จร.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ประมาณ 15 นาย ตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร และป้องกันปราบปราบอาชญากรรม บริเวณใต้สะพานลอย หน้าโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย ขาเข้าสุพรรณบุรี ต.รั้วใหญ่ ได้มีรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว ทะเบียน ผบ 3245 อุบลราชธานี ขับมาด้วยความเร็ว เมื่อเห็นด่านตรวจ คนขับรถได้ถอยหลังระยะทางเกือบ 200 เมตร พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จึงไล่ติดตามจนถึงยูเทิร์น หน้าวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ก่อนคนขับดริฟท์รถไปฝั่งตรงข้าม จนรถเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ ไปต่อไม่ได้
ตรวจสอบภายในพบยาบ้าซุกอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ 1 พันเม็ด และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก โดยมีนายพล ชาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี คนขับได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หัวเข่าแตก ส่วนหญิงสาวนั่งมาในรถด้วย 1 คน บาดเจ็บเล็กน้อย จึงกันพื้นที่พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย ช่วยเหลือคนเจ็บส่งโรงพยาบาลพร้อมอายัดตัวไว้สอบสวน และประสานตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสอบเก็บหลักฐานและขยายผลในที่เกิดเหตุ
สอบถาม นายพล เบื้องต้นอ้างว่า ขับรถไปธุระที่บ้านดงกระเชา อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี มากับเพื่อนสาว 2 คน ส่วนอีกคนหลบหนีไปได้ช่วงชุลมุน ส่วนรถที่เกิดอุบัติเหตุยืมคนรู้จักมาและกำลังจะขับนำไปคืน แต่มาเจอด่านตรวจตำรวจก่อน ด้วยความกลัวเนื่องจากเสพยาบ้าเข้าไป จึงถอยหลังรถหนี ส่วนยาบ้าที่พบไม่ใช่ของตน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อายัดตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี สอบสวนขยายผลเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส.ต.อ.ธนาวิศน์ ดุษณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กล่าวว่า ขณะตั้งด่านคนขับรถกระบะขับมาด้วยความเร็วจึงส่งสัญญาณให้จอด แต่คนขับกลับถอยลงไปจนถึงยูเทิร์นหน้าวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร และดริฟท์รถจนเสียหลักพลิกหลายตลบ ตอนแรกคิดว่าคนในรถน่าจะอาการหนัก แต่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังพบหญิงสาวอีกคน วิ่งหนีเข้าไปในวัดป่า จึงติดตามตัวแต่ไม่พบ พบเพียงนายพล และหญิงสาวอีกคนติดอยู่ในรถ จึงช่วยกันนำตัวออกมาดังกล่าว