สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ว่ามีรายงานเกี่ยวกับราคาขายปลีกของเชื้อเพลิงเบนซินในเมียนมา ว่าตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นไปอยู่ที่มากกว่าลิตรละ 3,000 จ๊าด (ราว 48.56 บาท) ยิ่งไปกว่านั้น สถานีบริการเชื้อเพลิงหลายแห่งขาดแคลนเชื้อเพลิงหลายประเภทด้วย


ขณะเดียวกัน ชาวเมียนมาเผชิญกับอัตราค่าไฟฟ้า ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอัตราเรียกเก็บ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. โดยจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 50 จ๊าด (0.81 บาท) สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-50 หน่วย 100 จ๊าด (ราว 1.62 บาท) ระหว่าง 51-100 หน่วย 150 จ๊าด (ราว 2.43 บาท) สำหรับการใช้กระแสไฟฟ้า 101-200 หน่วย และ 300 จ๊าด ราว 4.86 บาท) สำหรับครัวเรือนที่ใช้กระแสไฟฟ้าตั้งแต่ 201 หน่วยขึ้นไป


สำหรับค่าไฟของภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน หน่วยงานรัฐ และองค์กรรัฐวิสาหกิจ จะอยู่ที่ 250 จ๊าด (ราว 4.05 บาท) จากการใช้งานระหว่าง 1-5,000 หน่วย 400 จ๊าด (ราว 6.48 บาท) ระหว่าง 5,001-20,000 หน่วย และ 500 จ๊าด (ราว 8.09 บาท) กับการใช้งานตั้งแต่ 20,001 หน่วยขึ้นไป


นอกจากนี้ มีรายงานว่า สำนักงานหนังสือเดินทางเมียนมาประกาศปรับขึ้นอัตราค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางธรรมดา จากเล่มละ 35,000 จ๊าด (ราว 566.58 บาท) เป็นเล่มละ 40,000 จ๊าด (ราว 647.52 บาท) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เช่นกัน

ทั้งนี้ รายงานของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า เศรษฐกิจของเมียนมาซึ่งหดตัวแล้วมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลา ก่อนเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ประชากรเกือบ 1 ใน 3 ของประเทศ มีคุณภาพชีวิตอยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน ตามเกณฑ์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น).

เครดิตภาพ : AFP