สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ว่ากระทรวงการต่างประเทศไต้หวันออกแถลงการณ์ “ประณามอย่างสูงสุด” ต่อการที่จีน “แทรกแซงโดยพลการ” และ “ดำเนินการอย่างไม่มีเหตุผล” ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค


อย่างไรก็ดี การปรับแก้แถลงการณ์ของที่ประชุมประชุมองค์กรการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก ( พีไอเอฟ )ที่เกิดขึ้น จะไม่ส่งผลต่อสถานะของไต้หวัน หรือเป็นการลิดรอนสิทธิของรัฐบาลไทเป ที่จะเข้าร่วมการประชุม และรักษาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศพีไอเอฟในอนาคต


ทั้งนี้ การประชุมพีไอเอซึ่งมีสมาชิก 18 ประเทศ มีตองกาเป็นเจ้าภาพปีนี้ และการหารือสิ้นสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังใช้เวลายาวนาน 5 วัน เดิมทีเนื้อหาตอนหนึ่งจากแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุม ยันการยึดมั่นตามข้อตกลงฉบับปี 2535 ซึ่งเปิดโอกาสให้พีไอเอฟหารือและเจรจาร่วมกับไต้หวัน สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับจีน


หลังจากนั้น ที่ประชุมแพร่แถลงการณ์ร่วมฉบับใหม่ ตัดเนื้อหาที่ระบุถึง “ความร่วมมือกับไต้หวัน” ออกทั้งหมด ขณะที่แหล่งข่าวในกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกพีไอเอฟ กล่าวว่า ย่อหน้าเกี่ยวกับไต้หวันในแถลงการณ์ “ไม่ได้ผ่านการรับรองแบบเป็นฉันทามติ” จากสมาชิกทุกประเทศ


อนึ่ง จีนและไต้หวันมีสถานะเป็น “หุ้นส่วนการพัฒนา” ของพีไอเอฟ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนพยายามวิ่งเต้นล็อบบี้พีไอเอฟ ให้ยุติความร่วมมือทุกรูปแบบกับไต้หวัน ขณะที่หมู่เกาะโซโลมอนซึ่งมีความเป็นพันธมิตรกับจีน และจะทำหน้าที่ประธานพีไอเอฟ ในปี 2568 พยายามผลักดันให้ที่ประชุมยกเลิกสถานะการเป็นพันธมิตรของไต้หวัน โดยให้เหตุผลว่า พีไอเอฟคือองค์กรระหว่างประเทศที่สมาชิกทุกประเทศควรมีสถานะ “รัฐเอกราช” ไม่ใช่ “รัฐที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจแบบอื่น”.

เครดิตภาพ : AFP