เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ กันตะยศ ผกก.สภ.สามชุก พ.ต.อ.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา ผกก.สภ.หนองหญ้าไซ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ โพธิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.หนองหญ้าไซ พ.ต.ต.ชิราวุธ ดอนจินดา สว.สส.สภ.สามชุกพ.ต.ท.สนิทพงษ์ อินทรกำแหง สว.กก.สส., กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.นรากร แซ่เอง รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.สามชุก ,ชุดสืบสวน สภ.หนองหญ้าไซ, กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, กก.สส.2 บก สส.ภ.7 ร่วมกันจับกุมตัว นายสมหวัง อายุ 49 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี และยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน แห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ.207/2567ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 67 เกิดเหตุคนร้ายงัดแงะบ้าน ลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.หนองหญ้าไซ 2 หลัง และในพื้นที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี 1 หลัง ชุดสืบสวนได้สืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่า ในช่วงเวลาวันที่ 15-19 ส.ค. 67 ผู้ต้องหาลงมือกระทำผิดในท้องที่ ทั้งเขต อ.หนองปรือ , อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี อ.หนองหญ้าไซ และ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี อย่างต่อเนื่อง โดยมีตำหนิรูปพรรณการแต่งกายคนร้ายขณะก่อเหตุ สวมใส่หมวกผ้าสีน้ำตาล ด้านบนสีเหลือง คลุมหน้า สวมใส่เสื้อแขนยาวสีเขียว สวมใส่กางเกงขายาวสีกรมท่า สวมถุงมือสีฟ้าคาดดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไอ 110 สีน้ำเงิน ใส่ล้อแม็กสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
โดยคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ วนดูบ้านเป้าหมาย จากนั้นจะนำรถจักรยานยนต์ฯ มาจอดบริเวณใกล้กับบ้านเป้าหมาย และเดินเข้าไปทำการก่อเหตุและใช้อุปกรณ์เป็นไคควง ประแจยาว เหล็กยาวทำการกระแทกหน้าต่าง และเข้าไปเอาทรัพย์สินภายในบ้าน หลบหนีไป จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับก่อนเข้าจับกุมดังกล่าว โดยต่อมาได้ควบคุมตัวนายสมหวัง ไปทำการตรวจค้นบ้านพักนายสมหวัง พบของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ถุงมือผ้าลาย สีเขียว-ดำ 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ พร้อมด้วยซิมการ์ด
พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า นายสมหวัง มีพฤติกรรมงัดแงะ ลักทรัพย์ตามบ้านพักอาศัย ขอชื่นชมทีมงานสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี , ทีมสืบสวน สภ.หนองหญ้าไซ , ทีมงานสืบสวน สภ.สามชุก คดีนี้ต้องนำไปเป็นแนวทางการสืบสวนและสอบสวน ออกหมายจับคนร้าย สวมหมวกไหมพรหม ปิดใบหน้า ไม่มีภาพกล้องในขณะทำผิดเลยสักจุด และไม่พยานเห็นยืนยันขณะก่อเหตุเลย สักจุดหนึ่ง แต่ตำรวจสุพรรณฯ ทำได้ จับกุมคนร้ายได้
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป