เมื่อวันที่ 31 ส.ค. โรงเรียนคู่พัฒนา ระหว่างโรงเรียนเลยพิทยาคม กับ โรงเรียนเลยอนุกูลวิทยา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู จัดการแข่งขันกีฬาประเพณีโรงเรียนคู่พัฒนา ครั้งที่ 7 ประจำปีการศึกษา 2567 เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ให้ครู บุคลากร นักเรียน ทั้ง 2 โรงเรียน รักการออกกำลังกาย มีสุขภาพพลามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงาน เสริมสร้างความสามัคคี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย โดยมีนายณัฐภณ ดวงท้าวเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู เป็นประธานในพิธีเปิด ณ สนามกีฬาโรงเรียนเลยพิทยาคม

นายจิตติศักดิ์ นามวงษา ผู้อำนวยการโรงเรียนเลยพิทยาคม กล่าวว่า กีฬาประเพณีโรงเรียนคู่พัฒนา เลยพิทย์-เลยอนุกูล เป็นการแข่งขันฟุตบอลประเพณีระหว่างโรงเรียนเลยพิทยาคมกับโรงเรียนเลยอนุกูลวิทยา เพียง 2 โรงเรียน ที่เป็นโรงเรียนคู่พัฒนา เริ่มจัดกิจกรรมขึ้นครั้งแรก ในปีการศึกษา 2559 ใช้สนามกีฬากลาง อำเภอเมือง จังหวัดเลย เป็นสถานที่จัดงาน หลังจากที่มีการจัดแข่งขัน ในปีแรกจนถึงปีการศึกษา 2562 รวม 4 ครั้ง และเว้นการจัดงาน 2 ปีการศึกษา คือ ปีการศึกษา 2563-2564 ไม่สามารถจัดงานได้เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19)

จนกระทั่ง ในปีการศึกษา 2565 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คลี่คลายลง จึงได้กำหนดจัดงานอีกครั้ง โดยมีการปรับสนามที่ใช้แข่งขัน จะสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทุกปีการศึกษา กองเชียร์ของโรงเรียนที่เป็นเจ้าภาพจะใช้อัฒจันทร์ฝั่งทิศเหนือ อีกฝ่ายจะใช้อัฒจันทร์ฝั่งทิศใต้ของสนาม กิจกรรมภายในงานแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การแข่งขันฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี และกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างครูและบุคลากร จากทั้ง 2 โรงเรียน ซึ่งในปีการศึกษา 2567 นี้ กำหนดให้มีการแข่งขันกีฬาครูและบุคลากร 2 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลชาย แชร์บอลหญิง และกรีฑา 1 รายการ คือการวิ่งผลัดแบบผสม 8 x 50 เมตร และจะให้มีการเดินขบวนพาเหรด เริ่มต้นจากหน้าศาลากลางจังหวัดเลย ผ่านเส้นทางหน้าเรือนจำจังหวัดเลย เข้าสู่ประตู 1 ของโรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครอง ชุมชน ได้รับชมในกิจกรรม

อีกทั้ง ยังเป็นการตอบสนองนโยบาย 3 เมือง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย หนองบัวลำภู เพื่อพัฒนาเขตพื้นที่และสถานศึกษา ได้แก่ เมืองแห่งสุขภาพ เมืองแห่งความสวยงาม และเมืองแห่งการเรียนรู้ อันจะนำไปสู่ “เรียนดี มีคสามสุข” ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ