สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาสให้ข้อมูลตรงกัน ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน จากปฏิบัติการทางทหารของกองทัพอิสราเอล ในหลายพื้นที่ของเขตเวสต์แบงก์ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา
ส่วนแถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอลยืนยันตัวเลขดังกล่าว และระบุเพิ่มเติมด้วยว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิต คือ วิสซัม คาเซม แกนนำสายทหารของกลุ่มฮามาส ในเมืองเจนินของเขตเวสต์แบงก์ และมีผู้ถูกจับกุมอีกอย่างน้อย 17 คน
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การลุกฮือ “อินติฟาดา” ครั้งที่สอง ระหว่างปี 2543-2548 ที่กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการพร้อมกันในหลายเมืองของเขตเวสต์แบงก์ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ ใช้ทั้งการโจมตีภาคพื้นดิน และการโจมตีทางอากาศ
ขณะที่นายอิสราเอล คัตซ์ รมว.การต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่า ภารกิจด้านความมั่นคงของทหารครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ “ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้าย ที่ได้รับความสนับสนุนจากอิหร่าน”
อีกด้านหนึ่ง องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยืนยันการบรรลุข้อตกลงร่วมกับอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ในการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยใน 3 เขตของฉนวนกาซา คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้สามารถมีการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ราว 640,000 คน ในฉนวนกาซา ระหว่างเวลา 06.00-15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. นี้
อนึ่ง ดับเบิลยูเอชโอรายงานเมื่อไม่นานมานี้ ว่าทารกอายุ 10 เดือนคนหนึ่ง ในฉนวนกาซา มีอาการป่วยจากโรคโปลิโอจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ 2 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ที่มีการยืนยันผู้ป่วยโรคโปลิโออย่างเป็นทางการในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม การเจรจาเพื่อหาทางหยุดยิงครั้งใหม่ในฉนวนกาซา โดยมีกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐเป็นคนกลาง เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ แทบไม่มีความคืบหน้ามากนัก จากการที่คณะผู้แทนเจรจาของกลุ่มฮามาสยืนกรานปฏิเสธ “เงื่อนไขใหม่” ซึ่งรวมถึงการที่อิสราเอลจะยังคงประจำการทหารบางส่วน ไว้ตามแนวชายแดนทางตอนใต้ของฉนวนกาซาซึ่งติดกับอียิปต์ และเงื่อนไขประกอบการปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา แลกเปลี่ยนกับการปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ออกจากเรือนจำของอิสราเอล.
เครดิตภาพ : AFP