เมื่อวันที่ 29 ส.ค. วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดสอนหลักสูตรการบัญชีดิจิทัล (บัญชีบัณฑิต) ตอบโจทย์คนวัยทำงานหรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาอื่นที่ไม่ใช่สาขาบัญชี และมีความประสงค์จะได้รับคุณวุฒิทางด้านบัญชี ไปขึ้นทะเบียนเป็นนักทำบัญชี เพื่อนำไปประกอบวิชาชีพด้านบัญชี อาทิ ผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA) เป็นต้น โดยหลักสูตรนี้ได้รับความนิยมสูงในวัยทำงาน วัยเกษียณ รวมถึงผู้บริหารระดับสูง เหตุหลักสูตรมีความยืดหยุ่นสูง จบได้ภายใน 1.5 ปี
ดร.ณัฐพัชร์ นวลมณีฐิติ รองคณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า หลักสูตรการบัญชีดิจิทัล (บัญชีบัณฑิต) มุ่งเน้นผลิต “นักบัญชีดิจิทัล” ได้ถูกออกแบบให้ตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจ โดยเปิดรับผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากทุกสาขาวิชา โดยผู้ไม่ได้จบสายบัญชีมาก็เรียนได้ หลักสูตรนี้เปิดสอนเฉพาะวันอาทิตย์มานานกว่า 10 ปี โดยปรับหลักสูตรให้ผู้เรียนสามารถจบ Course Work ได้เร็วขึ้นภายใน 1.5 ปี ปัจจุบันผู้สมัครเรียนมาจากหลากหลายสาขาวิชาชีพ อาทิ ทนายความ สถาปนิก นักกฎหมาย และผู้บริหารระดับ CFO (Chief Financial Officers) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการมีทักษะและความรู้ด้านบัญชีในทุกธุรกิจ
ดร.ณัฐพัชร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับจุดเด่นของหลักสูตร คือ เน้นการเรียนการสอนด้านบัญชีดิจิทัล และเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (Accounting Software) เพื่อตอบโจทย์ยุค Digital Transformation เช่น การนำเสนอข้อมูลทางบัญชีง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว ด้วยโปรแกรม Power BI for Data Analytics หรือสรุปข้อมูลให้เข้าใจง่ายด้วยการใช้งาน Dashboard ประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ การเรียนยังมีความยืดหยุ่นสูง มีการเรียนการสอนแบบ Hybrid Working การเรียนบัญชีในช่วงแรกทุกคนอาจรู้สึกว่ายาก เนื่องจากเป็นการเรียนข้ามศาสตร์ ดังนั้นอาจารย์ผู้สอนจะปูพื้นฐานด้านบัญชีขั้นต้นให้กับผู้เรียน พร้อมสอดแทรกความรู้ด้านภาษีอากร ก่อนที่จะยกระดับไปสู่การเรียนบัญชีชั้นสูง และต่อยอดไปยังรายวิชาอื่นๆ ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในคลาสเรียนจะเน้นการสอนแบบผ่อนคลายและไม่เร่งรัดจนเกินไป
“เพื่อเพิ่มทักษะด้านบัญชีดิจิทัลให้ผู้เรียน วิทยาลัย CIBA ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มบัญชีชั้นนำ อาทิ SAP ERP, Express Software, FlowAccount, PEAK, NEXTTO, รวมทั้งการนำ Optical character recognition (OCR) และ POS on Mobile มาใช้ในการเรียนการสอน และเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสอนเสริม ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้เทคโนโลยีล่าสุดในวงการบัญชี ดังนั้น ผู้เรียนทุกคนจะมีสกิลด้านบัญชีดิจิทัลอย่างแน่นอน” ดร.ณัฐพัชร์ กล่าว
น.ส.เดือนเพ็ญ หอมนิยม ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ซีทีเอส โลจิสติกส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์การทำงานด้านการเงินและการบัญชีมานาน แต่ยังไม่มีคุณวุฒิด้านบัญชี จึงตัดสินเรียนสาขานี้เพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชี เพราะวางแผนสำหรับการประกอบอาชีพอิสระหรืออาชีพเสริมภายหลังเกษียณอายุ สำหรับบรรยากาศในห้องเรียน อาจารย์ทุกท่านจะเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนผ่านกิจกรรมเวิร์กชอปมากกว่าเรียนทฤษฎี และปรับสไตล์การสอนให้เข้ากับวัยทำงาน ทำให้การเรียนบัญชีเป็นเรื่องที่สนุก
“ส่วนตัวรู้สึกโชคดีมากที่กลับมาเรียน เพราะหลักสูตรนี้ตอบโจทย์มาก เรียนได้ทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ ที่สำคัญอาจารย์จะสอนการทำบัญชีบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ซึ่งสอดรับกับการทำบัญชีในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆที่ใช้ในการทำงานด้วย อยากฝากถึงผู้ที่อยู่ในสายวิชาชีพบัญชี ถ้ามีเวลาอยากให้มาเรียนสริมทักษะความรู้ เพราะอาชีพนี้มีความมั่นคงในตลาดแรงงาน และยังสามารถประกอบอาชีพอิสระได้” น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าว
นายชวณัฐ คุ้มทรัพย์อนันต์ Finance Manager บริษัท บ้านกรองทอง จำกัด กล่าวว่า เหตุผลหลักที่ตัดสินใจเรียนการบัญชีที่วิทยาลัย CIBA DPU เพราะเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียง หลักสูตรตอบโจทย์ที่ต้องการ และมีความยืดหยุ่นในการรับสมัครเรียน สามารถเข้าศึกษากลางภาคเรียนได้ ส่วนหลักสูตรมีการจัดการเรียนการสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาด้านบัญชี สำหรับข้อดีของการเรียนหลักสูตรนี้ คือ ได้เรียนรู้การใช้งานโปรแกรม SAP ซึ่งเป็นระบบ ERP (Enterprise resource Planning) ชั้นนำระดับโลก ที่สำคัญการเรียนมีความสะดวกเพราะใช้ Google Classroom เป็นสื่อกลางในการจัดการเรียนการสอน รวมถึงการสื่อสารระหว่างผู้เรียนและผู้สอน
“ผู้บริหารด้านการเงินและบัญชีจำเป็นต้องมีคุณวุฒิทางบัญชี เพราะการมีทักษะด้านนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และการสื่อสารกับบุคลากรด้านบัญชีในองค์กร ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อการบริหารองค์กรและความก้าวหน้าในวิชาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ได้สร้างเครือข่ายจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มาจากหลายสาขาอาชีพด้วย” นายชวณัฐ กล่าว