จากกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดข้อความแชตไลน์ ยืนยันการเข้าพบ “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ ภายหลังจากที่นายทักษิณ เคยปฏิเสธเรื่องดังกล่าวกับสื่อมวลชน โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาระบุว่าตนเองได้เข้าพบนายทักษิณถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2566 และอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ. 2567 พร้อมเตรียมแฉอาการเจ็บป่วยของอดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ก่อนประกาศกร้าวว่าคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะต้องรับผิดชอบ หรือต้องเข้าคุก ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตั้งโต๊ะแถลงเปิดหลักฐานข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ ว่ามีบุคคลนัดหมายพาเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ ณ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า กรมราชทัณฑ์ พร้อมชี้แจงหากมีข้อกล่าวหาใด รวมถึงหากมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ เราก็พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลนายทักษิณเข้าให้ข้อมูล

ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้น ขอยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ไม่เคยอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าเยี่ยมอดีตนายกฯ เพราะในบรรดารายชื่อผู้ที่สามารถเข้าเยี่ยมนายทักษิณตามที่ระบุไว้ 10 รายชื่อนั้น มีเพียงญาติและทนายความ ส่วนข้อความที่ปรากฏเป็นแชตไลน์นั้น ตนก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่าเป็นไปได้อย่างไร โดยกรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยและควบคุมให้เป็นตามระเบียบ และไม่เคยอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าเยี่ยมอดีตนายกฯ

ส่วนกรณีที่ถ้าหากว่ามีบุคคลอื่น หรือเป็นบุคคลใน 10 รายชื่อพาเข้าเยี่ยมแทน สามารถทำได้หรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แจงว่า ต้องมีการขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ผู้คุมก่อน ซึ่งจากรายงานไม่เคยมีการอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าเยี่ยมนายทักษิณ แต่อย่างใด นอกจากนี้ ในช่วงที่นายทักษิณนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กรมราชทัณฑ์ก็มีการจัดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ผลัดเวรยาม 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ จึงต้องดูว่าที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตรียมจะเปิดเผยเพิ่มเติมคือเรื่องอะไร แต่กรมราชทัณฑ์ยืนยันได้และพร้อมชี้แจง

ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงของสำนักงาน ป.ป.ช. ยังระบุด้วยว่า กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ รพ.ตำรวจ บนชั้น 14 ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะต้องเชิญเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจ เพื่อสอบถามประเด็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ การรักษาพยาบาลของแพทย์ เป็นต้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าในกระบวนการการตรวจสอบของ ป.ป.ช. หากข้อมูลใดเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย ต้องพินิจว่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิของผู้นั้นด้วย

ส่วนขั้นตอนแนวทางในการไต่สวนประเด็น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะต้องกำหนดข้อซักถามที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบุคคลในเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อดูว่าข้อมูลเหล่านั้น สามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้รับผิดชอบระดับใดบ้าง หรือบุคลากรนอกหน่วยงานใครบ้างหรือไม่ และผู้นั้นจะให้การขยายความไปถึงใครอีกหรือไม่ รวมถึงพยานหลักฐานจะต้องขอเพิ่มเติมจากหน่วยงานรับผิดชอบเพื่อนำมาเปรียบเทียบด้วยหรือไม่ อาทิ กล้องวงจรปิดของ รพ.ตำรวจ ขณะที่กรณีของการเชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส มาให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. นั้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะต้องดูข้อมูลข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานตามที่ปรากฏเบื้องต้นก่อนว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เข้าไปเยี่ยมญาติอดีตนายกรัฐมนตรี จริงตามกล่าวอ้างหรือไม่ ใครเป็นพยานในเหตุการณ์นี้ ใครเป็นผู้อนุมัติ อนุญาตการเข้าเยี่ยมอย่างไร และเกิดขึ้นวันเวลาใดบ้าง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวระบุว่า เมื่อครั้งที่มีการควบคุมดูแลนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ได้มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ที่จะต้องเข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ช. รวมถึงผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ด้วย