เมื่อวันที่ 29 ส.ค.นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงพื้นที่มอบสิ่งของเครื่องใช้และอาหารแห้งให้นักเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งพูดคุยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้นักเรียนและครูที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี นายสมพงษ์ บุตรวัน รองผอ.สพป.ชร 4 นายสุริยา บุดดี ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่ต๋ำตาดควันวิทยาคม จ.เชียงราย นายวันสว่าง สิงห์ชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย นายชรินทร์ คำหล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลตาดควันและบุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย ร่วมติดตามในครั้งนี้ด้วย
.
โอกาสนี้ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ได้นำความห่วงใยจาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะทำงาน รมว.ศธ. และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ส่งถึงโรงเรียน นักเรียนและครู ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ พร้อมทั้งกำชับให้โรงเรียนและเขตพื้นที่ดูแลในเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนและครูเป็นสำคัญ จากนั้น รองเลขาธิการ กพฐ. และคณะ ได้ลงพื้นที่บ้านนักเรียนโรงเรียนแม่ต๋ำตาดควันวิทยาคม สพม.เชียงราย เพื่อมอบถุงยังชีพที่บรรจุสิ่งของเครื่องใช้และอาหารแห้งให้กับนักเรียนและครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วม และได้เดินทางไปยังศูนย์ประสานงานผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตำบลแม่สา จ.เชียงราย เพื่อส่งมอบความห่วงใยและงบประมาณสนับสนุน รวมทั้งให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป
.
ทั้งนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ปฏิบัติการเฝ้าระวังและช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัย พร้อมทั้งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้นำหลักในการประสานงานดูแลให้ความช่วยเหลือโรงเรียน นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้สถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอุทกภัย รวมถึงแผนป้องกันและแผนเผชิญเหตุที่ได้เตรียมไว้ พร้อมทั้งประสานงานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และให้วิเคราะห์ความเสี่ยงในการเดินทางของนักเรียนโดยเน้นความปลอดภัยในชีวิตเป็นสำคัญ หากมีความจำเป็นต้องสั่งปิดสถานศึกษาให้อยู่ในดุลยพินิจผู้บริหารสถานศึกษา ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งให้จัดเตรียมที่พักพิงในกรณีจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และสามารถประสานขอความช่วยเหลือมายังเขตพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง