เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่ตึก SC ASSET Public Company Limited ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ (ตึกชินวัตร 3) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายสถานการณ์น้ำ ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนนี้ถึงไหนแล้ว ว่า ขณะนี้เราอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และกฤษฎีกาที่กำลังดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า กระบวนการตรวจสอบตอนนี้ใกล้จะเสร็จแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค เราก็คาดการณ์ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ประมาณกลางเดือน ก.ย. ซึ่งต้องรอโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน และหลังจากโปรดเกล้าฯ ทุกอย่างเราได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ทั้งการแถลงนโยบาย หรือการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ถ้าจิ้มคนไหนคนนั้นก็โอเค ทำหน้าที่ได้ตามที่มีการคัดเลือกกัน
เมื่อถามต่อว่า เวลานี้สรุปได้หรือยังว่าพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาลมีกี่พรรคกี่กลุ่ม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ระหว่างที่ยังไม่สรุปและเสนอได้ ก็ยังมีพรรคเข้าและออกได้ทั้งนั้น แต่ไม่ค่อยมีออก มีแต่จะเข้า ตอนนี้อย่างที่เห็น ครบพรรคทั้งหมดที่ว่ามา ยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ประกาศออกไปแล้วก็ว่ากันไป และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำหลักได้ประสานติดต่อกับทางพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เมื่อถามอีกว่าตอนนี้ได้เสียงที่ตัวเลขเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า 300 กว่านิดๆ
เมื่อถามด้วยว่าเลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้ประสานมายังกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้เราทำตามกระบวนการของเรา และทุกอย่างที่ว่า คนนี้อยู่ตรงนั้น คนนั้นอยู่ตรงนี้ ตนไม่ทราบว่าข้อมูลจากไหน แต่ความชัดเจนจะมีก็ต่อเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ยืนยันอีกว่า วันนี้ยังไม่มีใครรู้เลยเก้าอี้ของใครเป็นใคร แม้แต่ตนยังไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไร รอให้ออกมาก่อน
เมื่อถามว่าในฐานะพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนจับตารอว่าพรรคไหนจะเข้าร่วมรัฐบาลบ้าง จะแถลงชัดเจนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าชัดเจนทั้งหมดและชัดที่สุด ก็คือตอนที่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ทุกอย่างก็จะเห็นภาพชัดเจน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่กับการที่ไปเชิญพรรคการเมืองมาร่วมรัฐบาล หรือบางกลุ่มที่มาไม่เต็มร้อย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมา การตั้ง ครม. ของทุกครั้งมีมามีไป และมีไปมีมา มีหลวมมีแน่น ก็มีอย่างนี้มาตลอด เป็นเรื่องธรรมชาติที่เคยมีมาแล้ว ไม่มีอะไรต่างหรือพิเศษไปจากเดิม
เมื่อถามอีกว่า นอกจากเสถียรภาพรัฐบาลแล้ว ตอนนี้ยังมีนักร้องเข้ามาตรงนี้มีความเป็นห่วงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นชายนิรนาม นายภูมิธรรม กล่าวว่า นักร้องเป็นสิ่งที่ควบคู่กับการเมืองไทยมาตลอด ไม่เป็นไร มีหน้าที่อยากร้องก็ร้อง ร้องให้ถูกต้องก็ร้องไป แต่ของเรามั่นใจในตัวของเราเองว่า การทำงานเราอิงข้อกฎหมายอย่างเด่นชัด และจะทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ตามกระบวนการยุติธรรมที่เขาเสนอมา ส่วนกรณีมีคนจองกฐินเยอะเลย โดยเฉพาะตัวนายกฯ นั้น ความจริงต้องยอมรับว่า ความเป็นจริงมันเป็นอย่างนี้ แต่ตนคิดว่าประชาชนต้องช่วยดู อย่าปล่อยให้มีการร้องโดยที่ไม่มีสาระหรือไม่มีหลักกฎหมายหรือข้อเท็จจริงมาเป็นตัวหลักหลักฐาน ไม่เช่นนั้นจะบั่นทอนการทำงานของคนที่ตั้งใจทำงาน ตนคิดว่าร้องแล้วร้องอีก ร้องไปร้องมา และก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ขึ้นมา มันไม่ควรจะเปิดให้มีโอกาสนำเงื่อนไขนี้มาร้องเรียนเรื่อยๆ ที่ไม่มีเหตุมีผลมีหลักฐานที่เพียงพอ ตนคิดว่าน่าจะมีการทบทวน
เมื่อถามย้ำว่า ห่วงว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเอาคืนหรือไม่ หลังจากที่ไม่เอาร่วมรัฐบาล เพราะบางส่วนเริ่มจะมีดาหน้าเข้ามา เริ่มจะเอาคืน โดยการร้ององค์กรอิสระต่างๆ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แล้ววันนี้ประเทศชาติเป็นเรื่องสำคัญ ว่ากันไปตามนี้ และอย่าให้กระทบกระเทือนกับการบริหารราชการที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชน.