เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับ สส.ของพรรคฯ เพื่อพิจารณาและมีมติเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล ว่า มติที่ประชุมวันนี้จะไม่มีผลทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในส่วนของตนได้แสดงเหตุผลอย่างชัดเจนแล้ว และก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งยืนยันว่าเหตุผลของตนไม่ใช่เหตุผลส่วนตัว แต่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ตนรณรงค์ให้คนภาคใต้ ไม่เลือกพรรคไทยรักไทยที่มีการหาเสียงมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผลว่าจะพัฒนาเฉพาะพื้นที่จังหวัดของเขาซึ่งทำให้พื้นที่ภาคใต้เสียโอกาสทำให้คนใต้ไม่เลือกพรรคไทยรักไทย แต่พอมาเป็นพรรคเพื่อไทย จะเห็นได้ว่าชาวบ้านก็ไม่เลือกเลย เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดจากที่ตนนั้นรณรงค์ เพราะฉะนั้นบอกให้คนไม่เลือกแล้ว ตนมาเลือกคนที่รณรงค์ไม่ให้เลือก ตนจึงจำเป็นต้องยืนในจุดยืนของตนเอง อย่างน้อยก็เป็นการรักษาสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้

ส่วนใครที่บอกว่าความขัดแย้งที่ผ่านมา 20 ปี ภาคใต้เสียโอกาสไปมาก ทั้งที่ความจริงเป็นพื้นที่ที่สามารถทำรายได้ให้กับประเทศ เช่น รายได้ท่องเที่ยว รายได้ภาษี ซึ่งไม่ควรเลือกปฏิบัติกับเขา นี่เป็นสิ่งที่ตนขอยืนยันความขัดแย้งส่วนตัว แต่ประโยชน์ของประชาชนที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างน้อยก็มีตนคนหนึ่งที่สู้เรื่องนี้มาโดยตลอด

นายชวน กล่าวอีกว่า ขอประชาชนอย่าสนับสนุนพรรคการเมืองใดก็ตามที่มีมาตรการเลือกปฏิบัติ โดยยกตัวอย่าง ที่ตนเคยเป็นรัฐมนตรีมาสองสมัย ว่าตนไม่เคยเลือกปฏิบัติกับจังหวัดใด เราพัฒนาทุกจังหวัดเหมือนกัน นี่คือจุดที่ตนมีข้อแตกต่างที่ชัดเจน ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทยในสมัยปัจจุบัน ส่วนข้อกล่าวหาว่าความขัดแย้งตลอด 20 ปีที่ผ่านมานั้นยืนยันว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ควรรอมาถึง 20 ปีและก็ไม่ควรที่จะเอามาเป็นปัญหาของประเทศและประชาชนนักการเมือง ก็ควรที่จะเอาใจใส่กับผลประโยชน์ของประชาชน มีคนต่อสู้น้อย นายชวน กล่าวต่ออีกว่า เมื่อรัฐบาลไทยรักไทยพ้นไปแล้ว ได้ไปแล้ว ตนได้ทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องถึงความเสียหายที่ภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติตั้งแต่ในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์นั้นได้แก้ไขปัญหาแต่ละพื้นที่ เช่น ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีโครงการ 1,200 ล้านบาท ตนยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน หากตนไปบิดเบือนเจตนารมณ์โดยคนอื่นไม่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่าตนไม่สามารถยอมรับวิธีการที่มีการเลือกปฏิบัติต่อพื้นที่ที่มีการเลือกปฏิบัติด้วยวิธีนี้ได้ ซึ่งตนต้องรับผิดชอบที่ได้บอกประชาชนว่าอย่าเลือก ซึ่งประชาชนก็ไม่ได้เลือกมา 3 สมัย ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยได้มีคะแนนท่วมท้น แต่พื้นที่ภาคใต้ก็ไม่ได้แม้แต่คนเดียว ซึ่งให้คิดดูว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะผู้สมัครแต่ละคนก็ไม่ได้เลวร้าย

“แต่คนไม่เลือกเพราะว่าคนเชื่อผม และย้ำเรื่องนี้ทุกครั้ง เราจะไม่ตอบโต้ด้วยวิธีอื่น กลั่นแกล้ง หรือรุนแรง ยืนยันว่าเราใช้วิธีการประชาธิปไตยซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์ และคิดว่านักการเมืองพูดไปแล้วจะต้องรับผิดชอบเรามาบอกประชาชนแบบนี้แล้ว เรามากลับลำ มันเหมือนเป็นการหักหลังประชาชน” นายชวน กล่าว พร้อมยืนยันว่าเป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับคนอื่น