เมื่อเวลา 13.55 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่ตึก SC ASSET Public Company Limited ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ (ตึกชินวัตร 3) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยรองอธิบดี เข้ารายงานสถานการณ์น้ำพื้นที่ จ.สุโขทัย ก่อนที่วันที่ 30 ส.ค. น.ส.แพทองธาร จะลงพื้นที่ไปให้กำลังใจประชาชน จากนั้นเวลา 14.15 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ และปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ จะเดินทางมาสมทบ
จากนั้นเวลา 15.15 น. นายภูมิธรรม และ ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาประชุมร่วมกันเพื่อสรุปสถานการณ์น้ำท่วม โดยวันที่ 30 ส.ค. น.ส.แพทองธาร จะลงพื้นที่ จ.สุโขทัย และตนจะลงพื้นที่ในวันที่ 31 ส.ค. โดยจะประชุมกันที่ศาลากลาง จ.สุโขทัย เพื่อจะได้สั่งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งการเข้าพบนายกฯ วันเดียวกันนี้ ได้นำแผนที่ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) มาดูว่าต้องดำเนินการเรื่องอะไรบ้าง และพื้นที่กักเก็บน้ำในเขื่อนต่างๆ ถือว่ายังเพียงพอ คิดว่าไม่น่าเป็นห่วง เราพยายามป้องกัน แต่เรื่องน้ำมีอุบัติเหตุได้ หมายถึงว่าอาจมีเรื่องพายุเข้ามา แต่เท่าที่ดูตอนนี้คิดว่าควบคุมสถานการณ์ได้
เมื่อถามว่าคน กทม. และภาคกลาง ห่วงว่าน้ำจะทะลักลงมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนว่าไม่น่าเป็นห่วง เราสกัดน้ำไว้ได้เฉพาะหน้า ตอนนี้คิดว่าเอาอยู่ แต่ถ้ามีพายุเข้ามาก็ต้องดูสถานการณ์ แต่เราก็เตรียมป้องกัน
เมื่อถามต่อว่าการเป็นรัฐบาลรักษาการ ในเรื่องการใช้งบประมาณที่อาจต้องใช้งบกลาง จะไม่มีผลกระทบอะไรใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ เราเป็นรัฐบาลโดยตรง นายกฯ พ้นไปเฉพาะตัว ฉะนั้นเราทำหน้าที่ได้เต็มที่ ดำเนินการได้ทุกอย่าง ถ้าไปเจอแล้วมีปัญหา ตนสามารถใช้งบกลางได้ทันที ขณะนี้วางงบประมาณไว้ทุกส่วนแล้ว ซึ่งหลังจากที่เราประกาศเป็นภาวะภัยพิบัติ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีงบประมาณ 20 ล้านบาท สามารถดำเนินการได้เลย และยังมีงบของกลุ่มจังหวัดที่รองนายกฯ ดูแล ก็มีเงินเหลืออยู่นอกเหนือจากนี้ ซึ่งตนยังสามารถใช้งบกลางในการแก้ปัญหาภัยพิบัติได้
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมน้ำเหนือตอนนี้ ในลุ่มน้ำยมบริเวณ จ.สุโขทัย ควบคุมสถานการณ์ได้.
