สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ว่า ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการพบหารือระหว่างนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กับนายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจีน ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในรอบ 8 ปี ของผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ว่ารัฐบาลวอชิงตัน “ยึดมั่นต่อการปกป้องพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก”


ขณะเดียวกัน ซัลลิแวนแสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับ “พฤติกรรมบ่อนทำลาย” ของจีน ที่มีต่อ “กิจกรรมทางทะเลที่ถูกกฎหมาย” ของฟิลิปปินส์ ในทะเลจีนใต้


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเน้นย้ำ “ความสำคัญ” ของการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ ในช่องแคบไต้หวัน และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ตะวันออกกลาง และคาบสมุทรเกาหลี


อย่างไรก็ตาม ซิลลิแวนและหวังเห็นพ้องกัน เกี่ยวกับการเตรียมจัดการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งใหม่ ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน


ด้านสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่า หวังกล่าวกับซัลลิแวน ว่าสหรัฐต้องไม่ใช้ข้อตกลงทวิภาคี “เป็นข้ออ้าง” ในการบ่อนทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน


ขณะเดียวกัน สหรัฐ “ไม่ควรสนับสนุนและปกป้อง” ให้ฟิลิปปินส์รุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน ทั้งนี้ หวังเน้นย้ำกับซัลลิแวน ว่ารัฐบาลปักกิ่ง “ดำเนินการตามสิทธิอันชอบธรรมทางกฎหมาย” เพื่อปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดน และสิทธิในการเดินเรือของจีน เหนือกลุ่มเกาะในทะเลจีนใต้

หวังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐด้วยว่า ไต้หวัน “เป็นส่วนหนึ่งของจีน” และ “จะต้องกลับมารวมกับแผ่นดินแม่ในสักวันหนึ่ง” และการที่รัฐบาลวอชิงตันยืนยันว่า ไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวันนั้น สหรัฐ “ควรปฏิบัติให้เห็นผลจริงด้วย”


อนึ่ง การพบหารือระหว่างหวังกับซัลลิแวนครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 5 ภายในเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง ก่อนหน้านั้นทั้งคู่พบหารือกันที่สหรัฐ ออสเตรีย มอลตา และกรุงเทพมหานคร.

เครดิตภาพ : AFP