เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวานนี้ พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอยวัดบางหัวเสือ ชุมชนหมู่ 9 พัฒนา ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลปู่เจ้าสมิงพรายไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวอยู่ติดกันประมาณ 4 หลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงสงบ
จากการตรวจสอบพบว่า ต้นเพลิงมาจากบ้านเลขที่ 19/12 ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีบ้านที่อยู่ติดกันเสียหายบางส่วน เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด โดยใกล้ที่เกิดเหตุพบนายไพรัตน์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านต้นเพลิงที่เกิดเหตุ และมีอาการป่วยโรคประจำตัว โรคเบาหวาน ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี ถูกตัดขาข้างซ้ายจากโรคประจำตัว จึงเป็นผู้พิการ ซึ่งอยู่ในอาการตกใจ ได้สอบถามเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อแม่ลูก ตอนเกิดเหตุอยู่เพียงลำพังคนเดียวและเข้าห้องน้ำอยู่ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจกำลังจะออกจากห้องน้ำ ก็หันไปพบมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ในห้องนอนของตนภายในบ้าน จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ และมีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยออกไปได้ทัน
นายสุขชัย พรหมสุวัณ อายุ 51 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้เห็นเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือลุงพิการ เล่าว่า ตนเองขี่จักรยานยนต์กลับมา ก็เห็นไฟมันลุกขึ้นอยู่ ก็ไม่รู้ว่าบ้านใคร จังหวะเจอเพื่อนนั่งอยู่ข้างนอก เพราะมีคนช่วยเอาออกจากบ้านที่ไฟไหม้แล้ว จากนั้นเปลวไฟได้ลุกโหมจะไหม้อีก 1 หลัง ตนเองมาทราบภายหลังว่าเป็นบ้านของเพื่อนซึ่งพิการทางขา แต่ไม่มีคนกล้าสาดน้ำเพื่อดับไฟ เพราะว่าเปลวไฟกำลังลุกโหมอย่างหนัก ซึ่งภายในบ้านมีถังแก๊สอยู่ด้วย ตนเองจึงนำสายยางมาฉีดบ้านหลังดังกล่าวที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว ตนเองตกใจมากที่ไฟไหม้บ้านเพื่อน
ด้านนายมานะ รอยรัด อายุ 51 ปี เพื่อนบ้านที่ถูกไฟไหม้บางส่วน เล่าว่า บ้านตนอยู่ติดกับบ้านลุงที่เกิดเหตุ และก่อนเกิดเหตุ ตนยังคุยกับลุงอยู่เลย จากนั้นตนจึงได้เดินออกมาหน้าบ้านที่ติดกับถนน แล้วสักพักก็ได้ยินเสียงลุงตะโกนไฟไหม้ ตนจึงรีบวิ่งไปดู ก็เห็นมีไฟลุกไหม้ภายในบ้านลุง จากนั้นตนจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยลุงออกมา โดยมีวินมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านมาเห็นก็เข้ามาช่วยลุงด้วยกัน เอามาอยู่ที่ปลอดภัย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะปิดกั้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเชิญตัวเจ้าของบ้านไปสอบเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป