“คาทาลิน่า มาร์ซาโน่” มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2024 พร้อมด้วย “ปีใหม่-ศรุดา ปัญญาคำ” รองอันดับ 1 และ “ซาน-เหงวียน เติ่ง ซาน” รองอันดับ 1 เดินทางมาขอบคุณเดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ ที่สนับสนุนการประกวด “มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2024” เป็นอย่างดี โดยมี นายนพปฎล รัตนพันธ์ รองบรรณาธิการบริหาร ให้การต้อนรับ ทั้งนี้สาวๆ ได้ร่วมพูดคุยอย่างสนุกสนานถึงการประกวดและความประทับใจที่มีต่อเมืองไทย

คาทาลิน่า : รู้สึกประทับใจและตื่นเต้นมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าจะอยู่ใน 3 คนสุดท้าย เพราะก่อนหน้าวันประกวดหรือการเก็บตัว ฉันได้อยู่กับน้องทั้งสองคน พอถึงท็อป 3 ก็รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก สำหรับกระแสที่ว่าตัวเองเป็น “ม้ามืด” นั่น ฉันก็อยากจะเชื่อเลยว่าจะเป็น 1 ใน 3 คนสุดท้าย เพราะไม่ได้หวังแต่แรก ทว่าเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็คิดว่างานที่ทำทั้งหมดมันได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าภูมิใจ

ฉันทำงานเป็นอาสาสมัครด้าน “กุมารแพทย์” โดยเป็นการกุศล ซึ่งเคสที่รู้สึกสะเทือนจิตใจมากที่สุดคือเคสเกี่ยวกับผู้หญิงข้ามเพศที่เป็นเด็กอายุ 12 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี โดนพ่อแม่ทอดทิ้งต้องต่อสู้ชีวิตด้วยตัวเองจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่สูญเสียชีวิต ก็ไม่มีครอบครัวมาคอยสนับสนุนเลย จึงเป็นเคสที่เศร้าที่สุด ก่อนหน้านี้ทำงานเพื่อสังมาแบบเงียบๆ มา 7 ปีแล้ว หลังจากได้รับมงกุฎมีเพื่อนๆ ทักมา อยากจะร่วมเป็นอาสาสมัครด้วย การที่ตัวเองมีแพลตฟอร์มของมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2024 ก็จะช่วยให้งานนี้ประสบความสำเร็จง่ายขึ้น

“ในเรื่องของความหลากหลายในประเทศของฉัน มันเป็นเรื่องน่าเศร้า ในสังคมโลกใบนี้อาจจะมองว่า LGBTQ+ ได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น แต่สังคมของเปรูยังถูกกีดกันในเรื่องของกฎหมาย เราไม่ได้มีกฏหมายที่ถูกต้องในการที่จะมีสิทธิความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะด้านเฮลท์แคร์ พาสปอร์ตต่างๆ อีกทั้ง 2-3 วันที่ผ่านมา ประเทศเปรูไม่มียารักษาเพียงพอกับผู้ป่วยโรคเอชไอวีแล้ว ดังนั้นใครอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็อาจจะต้องจ่ายเงินเองและไม่มีสวัสดิการด้านสุขภาพให้กับพวกเขาแล้ว ดังนั้นยังมีกลุ่มอีกหลายกลุ่มที่ยังติดขัดและยังขาดแคลนอยู่ ฉันหวังว่าสิ่งที่เราเป็นคนหนึ่งในสังคม ก็ควรจะได้รับสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน”

การมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ ปีใหม่สอนวัฒนธรรมไทยให้สัมผัสโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น “การยิ้ม” และ “ช่วยเหลือ” จนรู้สึกได้ว่าเมืองไทยเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง และชอบกินขนมลอดช่องและขนมปลากิมไข่เต่าที่กินทุกวันเลย (หัวเราะ)

ด้าน ปีใหม่-ศรุดา ปัญญาคำ : รู้สึกเป็นวินาทีที่มีความสุข ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าจะประกาศออกมาได้ที่เท่าใด ก็ดีใจมากๆ แล้ว สำหรับคำติชมนั้น อ่านบ้างแล้วเอามาปรับปรุงตัวเอง ตามเจตนารมณ์ของตัวเอง ที่ว่าทุกคอมเมนต์ล้วนมีทั้งด้านดีและด้านลบ แต่เราจะทำให้ด้านลบกลายเป็นด้านบวกยังไง นั่นคือสิ่งที่เราต้องบริหารจัดการเอง

แรงกดดันจากการประกวด ยอมรับว่าการประกวดในบ้านหนักกว่า เพราะเราพูดภาษาเดียวกัน ทุกคนมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาประเทศของตัวเอง แต่สำหรับเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2024 ทุกคนมาจากประเทศที่แตกต่าง ทุกคนมีเป้าหมายต่างๆ กัน ดังนั้นปีใหม่คิดว่าไม่ได้สำคัญแค่รางวัลหรือตำแหน่งที่ได้รับ แต่สิ่งที่เราจะทำต่อจากนี้ต่างหากที่จะเป็นพ้อยท์สำคัญที่จะทำให้การประกวดนี้มีเป้าหมายต่อไป การที่ปีใหม่ได้มาเผยอัตลักษณ์ของความเป็นไทย เป็นเจ้าบ้านที่ดี เจ้าภาพที่ดี ก็รู้สึกว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่แล้ว

“การมาประกวดครั้งนี้ ปีใหม่ไม่ได้มาประกวดเพื่อตัวเอง เพื่อประเทศไทยเท่านั้น แต่มาในฐานะประชากรโลกคนหนึ่งที่อยากพัฒนาโลกของเราให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา หรือด้านโอกาสต่างๆ มันเลยทำให้รู้สึกว่ามูลค่าของเรามันหนักกว่าแรงกดดันที่เราจะเอารับแบกไหม ปีใหม่จึงมีความสุขในทุกๆ วันที่ได้ทำงาน หลังจากนี้จะทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง”

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจตรงนี้ ปีใหม่จะกลับไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตส สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์เหมือนเดิม ในฐานะมิสทิฟฟานี่ก็จะยังคงช่วยเหลือสังคมในประเทศและระดับโลก ส่วนตัวมีความเชื่อความถ้าชีวิตของเรายังไม่มั่นคง เราก็ไม่สามารถส่งมอบโอกาสให้กับสังคมและทุกๆ คนที่ขาดโอกาสได้ ดังนั้นปีใหม่ตั้งปณิธานในการ “เวิร์ก ไลฟ์ บาลานซ์” ให้ดี จะได้มีพลังมาช่วเหลือสังคมต่อไป

ปิดท้ายด้วยขวัญใจกองเชียร์คนไทย ซาน-เหงวียน เติ่ง ซาน : ตอนนี้ยังไม่อยากเชื่อว่าได้เป็นรองอันดับ 2 ของเวทีระดับโลกแล้ว ดีใจมากที่ทุกคนเอ็นดูหนูโดยเฉพาะคนไทยที่เชียร์เยอะมาก อยากอยู่เมืองไทยนานๆ กับพี่สาวทั้งสองคนนี้ ช่วงประกาศตำแหน่งน้ำตาที่ไหลมา มีความรู้สึกหลากหลายปะปนกันทั้งความสุข เสียดาย ภูมิใจในตัวเองด้วย เมื่อ 6 ปีก่อนตั้งแต่อายุ 13 ปี เคยมีความฝันตอนนี้เป็นตัวแทนของเวียดนามก็ภูมิใจอยู่แล้ว ตอนนี้เป็นรองอับดับ 2 ของโลกยิ่งดีใจกว่า ก่อนมาประกวดได้เรียนภาษาไทย ทั้งฝึกฟัง-พูด-อ่าน-เขียน มาเป็นระยะเวลา 6 เดือน ชอบฟังเพลงไทย ดูหนัง ดูซีรีส์ จึงพูดได้คล่องขึ้น หนูถามพี่ปีใหม่ว่า การประกวดครั้งนี้กิจกรรมเยอะ เหนื่อยไหม แต่พี่ปีใหม่ก็สอนให้หนูเอ็นจอยทุกวัน

“สังคม LGBTQ+ ในเวียดนามได้รับการพัฒนาขึ้น ในโซเชียลมีนายแบบ นางแบบ ได้รับการยอมรับทางด้านอาชีพมากขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดอยากให้พัฒนาด้านกฎหมายของ LGBTQ+ ที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ”

วัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่หนูสนใจที่สุด อยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมและเข้าใจมากขึ้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่มาเที่ยวเมืองไทย สองครั้งแรกหนูแพ็กแบ็กมาเที่ยวด้วยตัวเอง ครั้งนี้พิเศษกว่าเพราะได้อยู่เมืองไทยนานและได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยลึกซึ้งขึ้น ดีใจมากที่ได้รับความรักจากคนไทย

ทั้งนี้สามสาวได้ทิ้งท้ายฝากแฟนๆ ทุกคนที่ติดตาม มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2024 ช่วยสนับสนุนพวกเรา เพราะพวกเราจะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะช่วยเหลือให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน การมายืนอยู่จุดนี้ไม่มีคำว่าเหนื่อยเลย เพื่อที่จะให้สังคมนี้ดีขึ้น เกิดความเท่าเทียมจริงๆ ดังนั้นพวกเราจะเป็นตัวแทนในการช่วยเหลือสังคมให้เกิดความเท่าเทียมยิ่งขึ้น.