นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือกัลฟ์ เปิดเผยในงานไทยแลนด์โฟกัส 2024 ครั้งที่ 18 ว่า อยากเห็นความต่อเนื่องของนโยบายการส่งเสริมการลงทุนรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่กำลังจะเข้า และจะต้องสร้างบรรยากาศการแข่งขันอย่างเท่าเทียมให้กับผู้ประกอบการรายเล็กและขนาดกลาง หรือเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันยังต้องมีบริษัทใหญ่ ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และช่วยเหลือเอสเอ็มอีในประเทศได้ด้วย นอกจากนี้ เห็นด้วยกับการมีมาตรการคุ้มครองเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกของจีนเข้ามาตีตลาด โดยไม่ใช้เฉพาะการขึ้นภาษีกับสินค้าจีน แต่ต้องดูด้านคุณภาพสินค้า และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

น.ส.ศุธาศินี สมิตร รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในไทย และนักลงทุนต่างชาติที่กำลังจะเข้ามาลงทุนใหม่และเอสเอ็มอีไทย โดยบีโอไอจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมเก่าที่มีอยู่ ขณะเดียวกันจะส่งเสริมในการสร้างโอกาสใหม่ๆ อาทิ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี เซมิกคอนดักเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนระหว่างประเทศ มุ่งที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านพลังงานสะอาดหรือกรีนเอนเนอร์จี้ พัฒนาบุคลากร และซัพพลายเชน เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในอนาคตต่อไป 

ทั้งนี้แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลแต่นโยบายจะไม่เปลี่ยน เพราะทุกรัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดการลงทุนในประเทศอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และไทยพร้อมที่จะปรับมาตรการสนับสนุนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นภาคผลิต บริการ การเงิน ต่อไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บีโอไอเตรียมเปิดสำนักงานใหม่ในประเทศสิงคโปร์ และเฉิงตูของจีน เพื่อขยายฐานการส่งเสริมการลงทุน เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในไทย คาดว่าจะสามารถเปิดทำการได้ประมาณปี 67-68  หลังจากในปีนี้ ได้เปิดสำนักงานที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย