สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่า ผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เสียชีวิตจากโรคไข้สมองอักเสบม้าตะวันออก จากเชื้อไวรัสอีสเทิร์น อีควิน เอ็นเซฟาไลติส (ทริปเปิลอี) ซึ่งมีพาหะนำโรคเป็นยุง

กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ (ดีเอชเอชเอส) ประจำรัฐนิวแฮมป์เชียร์ รายงานว่า ผู้ป่วยรายหนึ่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยโรคระบบประสาทส่วนกลางขั้นรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

รายงานการติดเชื้อไวรัสทริปเปิลอีในมนุษย์ครั้งล่าสุดของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2557 โดยมีผู้ติดเชื้อ 3 คน และเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่การติดเชื้อและเสียชีวิตครั้งใหม่ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งกังวลว่า ภัยคุกคามด้านสาธารณสุขดังกล่าวจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา รัฐแมสซาชูเซตส์ ประกาศการพบผู้ป่วยโรคทริปเปิลอีคนแรกของปีนี้ เป็นชายวัย 80 ปี และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามเคอร์ฟิวกลางแจ้งโดยสมัครใจ พร้อมทำการปิดสวนสาธารณะ เพื่อฉีดพ่นยาฆ่ายุงทั้งทางอากาศและบนพื้นดิน

ตามข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อหรัฐ (ซีดีซี) อาการหลักของโรคนี้ ได้แก่ มีไข้, ปวดศีรษะ, อาเจียน, ท้องเสีย, ชัก, บุคลิกภาพผิดปกติ และง่วงซึม มากไปกว่านั้น อาการป่วยอาจนำไปสู่โรคทางระบบประสาทที่รุนแรง เช่น โรคสมองอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อร้อยละ 30 เสียชีวิต ขณะที่ผู้รอดชีวิตจำนวนมาก ได้รับผลกระทบทางร่างกายหรือจิตใจตลอดชีวิต บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 15 ปี และมากกว่า 50 ปี จะมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงวัยอื่น และปัจจุบัน ยังไม่มีการค้นพบวัคซีนหรือวิธีการรักษา

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงแนะนำให้ประชาชนใช้ยากันยุง, สวมเสื้อผ้าป้องกันเมื่ออยู่กลางแจ้ง และกำจัดแหล่งน้ำนิ่งรอบบ้านเพื่อลดการแพร่พันธุ์ของยุง

อนึ่ง สภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ประชากรยุงในสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP