เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม รองประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) แถลงผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ซึ่งมีบุคคลที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ จำนวน 12 ราย ดังนี้

สาขาทัศนศิลป์ ได้แก่ 1.ศาสตราจารย์เกียรติคุณกัญญา เจริญศุภกุล (สื่อผสม) 2.นางวิภาวดี พัฒนพงศ์พิบูล (สถาปัตยกรรมภายใน) 3.ร้อยตรี ทวี บูรณเขตต์ (ประณีตศิลป์-ช่างปั้น หล่อ) 4.นายสุดสาคร ชายเสม (ประณีตศิลป์-เครื่องประกอบฉาก)

สาขาวรรณศิลป์ ได้แก่ 1.นายประสาทพร ภูสุศิลป์ธร 2.นายวศิน อินทสระ

สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ 1.นายสมบัติ แก้วสุจริต (นาฏศิลป์ไทย-โขน ละคร) 2.นายไชยยะ ทางมีศรี (ดนตรีไทย) 3.นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา หรือ “โย่ง เชิญยิ้ม” (การแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย) 4.จ่าโทหญิง ปรียนันท์ สุนทรจามร (นักร้องเพลงไทยสากล-ลูกทุ่ง) 5.นายสุธีศักดิ์ ภักดีเทวา หรือ “ครูโจ้” (นาฏศิลป์สากล) 6.รองศาสตราจารย์บรรจง โกศัลวัฒน์ (ภาพยนตร์)

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้รับสวัสดิการประกอบด้วย ค่าตอบแทนรายเดือน เดือนละ 25,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยอนุโลม เว้นแต่มีสิทธิเบิกจากหน่วยงานอื่น ให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปีงบประมาณ เงินช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัยเท่าที่เสียหายจริง รายละไม่เกิน 50,000 บาท ต่อครั้ง ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วยหรือในโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 3,000 บาทต่อครั้ง และในกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพ รายละ 20,000 บาท เงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 150,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสนำศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ทั้ง 12 คน เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติ ในวัน เวลา ตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และจัดงานนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ประวัติผลงานของศิลปินแห่งชาติต่อไป