วันที่ 28 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงาน “พราวพัสตราแพรวาผืนผ้าแห่งแผ่นดิน” ซึ่ง จ.กาฬสินธุ์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับเครือข่าย และทุกภาคส่วนจัดขึ้น เพื่อสืบสานภูมิปัญญา ต่อยอดพัฒนาให้มรดกทางวัฒนธรรม สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าจากผ้าไหมแพรวา และผ้าพื้นเมืองนำออกสู่สายตาชาวโลก รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้าผลิตภัณฑ์โอทอป และส่งเสริมเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ตามนโยบายรัฐบาล
โดยมีนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.ประวัติ จารุตัน รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยรองนายกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาด นายอำเภอ ผู้บริหารสถานศึกษา ภาคเอกชน หอการค้า สมาคมท่องเที่ยว เครือข่ายโอทอป องค์กรสตรี และประชาชนเข้าร่วมพิธีเปิดจำนวนมาก
ทั้งนี้กิจกรรมก่อนพิธีเปิด มีการประกวดออกแบบชุดราตรี โดยไม่ตัดเย็บ ซึ่งมีนักออกแบบ และมีดีไซเนอร์ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ก่อนที่จะมีพิธีเปิดในช่วงเวลา 18.00 น. โดยมีการแสดง และแฟชั่นโชว์จากนางแบบ ซึ่งสวมชุดผ้าไหมแพรวาที่งดงาม และที่สำคัญยังได้รับเกียรติจากแม่คำสอน สระทอง เป็นศิลปินแห่งชาติ ปี 59 สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ซึ่งเป็นแม่ครูผู้เสียสละอุทิศตนถ่ายทอดศาสตร์แห่งผ้าแพรวา ผู้รังสรรค์ และพัฒนาผู้อนุรักษ์ลวดลายผ้าแพรวาดั้งเดิมมาร่วมงานด้วย
นายอุทัย กล่าวว่า จ.กาฬสินธุ์ มีผ้าไหมแพรว่าที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของชนเผ่าภูไท ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่จัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพที่บ้านโพน อ.คำม่วง และส่งเสริมจากผ้าไหมแพรวาที่กำลังจะเลือนหายไปกลับมามีชีวิตจนมีชื่อเสียงที่เลื่องลือ และได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งผ้าไหม นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาผู้ประกอบการโอทอปมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโอทอปทุกประเภท 2,786 กลุ่ม มีผลิตภัณฑ์โอทอป 4,960 ผลิตภัณฑ์ โดยมีผลิตภัณฑ์ประเภทผ้า 1,702 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์โอทอปสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนมากถึง 5,800 ล้านบาท เป็นยอดจำหน่ายผ้าไหมกว่า 3,340 ล้านบาท
ด้านนายสนั่น กล่าวว่า จ.กาฬสินธุ์ ได้อนุมัติงบประมาณในการจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการขายพัฒนาสินค้าโอทอป ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการจัดงาน “พราวพัสตราแพรวา ผืนผ้าแห่งแผ่นดิน” ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 สิงหาคม 2567 เพื่อนำเสนอเรื่องราวของการสืบสานภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น และต่อยอดพัฒนาให้มรดกทางวัฒนธรรมได้เกิดการสร้างสรรค์นำออกปรากฏสู่สายตาชาวโลก หลังจากเคยจัดไปแล้วเมื่อปี 60 ที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต พร้อมนำเสนอความงดงามและคุณค่าของผืนผ้าให้เกิดเป็นสินค้าแฟชั่นยุคใหม่ ที่ทันสมัย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าจากผ้าไหมแพรวา และความหลากหลายของผ้าพื้นเมือง รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้า และผลิตภัณฑ์โอทอป
นายสนั่น กล่าวต่อว่า งานนี้จะทำให้เกิดกระแสของวงการแฟชั่นผ้าไทย ซึ่งเป็นการพัฒนาคนและพัฒนาพื้นที่ไปพร้อมกับนวัตกรรมยุคใหม่ ผลักดันสร้างพลังสร้างสรรค์เป็น Soft Power ของ จ.กาฬสินธุ์ ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าของพื้นที่มรดกทางภูมิปัญญาเกิดการตื่นตัว และเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตนเองมี เกิดเป็นความภาคภูมิใจในถิ่นฐานบ้านเกิด และรักในผืนแผ่นดินภูมิใจในความเป็นชาวกาฬสินธุ์อีกด้วย
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ที่สำคัญงานครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากแม่คำสอน สระทอง เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) มาร่วมงาน ซึ่งชาวกาฬสินธุ์และประชาชนทั่วไปต่างพากันเชิดชูเกียรติ เพราะถือเป็นแม่ครูผู้เสียสละอุทิศตนถ่ายทอดศาสตร์แห่งผ้าแพรวา ผู้รังสรรค์ และพัฒนาผู้อนุรักษ์ลวดลายผ้าแพรวาดั้งเดิม มีผลงานด้านการทอผ้าแพรวาประดิษฐ์การทอผ้าแพรวา “เขาลาย” หรือ “ตระกรอลาย” นอกจากนี้ ยังรับหน้าที่เป็นครูสอนทอผ้าไหมแพรวาและวิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ซึ่งถือเป็นแม่ครูของวงการทอผ้าไหมแพรวา
อย่างไรก็ตาม สำหรับกิจกรรมในงานมีการรวมสินค้า OTOP ของดีเมืองกาฬสินธุ์ ชมการจัดแสดงนิทรรศการออกแบบผ้าไหมแพรวาและผ้าพื้นเมือง ร่วมช้อปสุดยอดผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมือง และผ้าไหมแพรวาที่ยกสินค้ามาจัดแสดงมากกว่า 100 แห่ง ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงแบบ “พราวพัสตาแฟชั่นโชว์” การประกวด “อัตลักษณ์ชุดผู้ไทยกาฬสินธุ์แบบดั้งเดิม ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก ลายผ้าอัตลักษณ์ 18 อำเภอ” การประกวด “ออกแบบชุดราตรีโดยไม่ตัดเย็บ” การแสดงจากศิลปินชื่อดัง และกิจกรรมต่างๆ มากมาย คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงานมากกว่า 20 ล้านบาท ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวมาร่วมงาน