จากกรณีที่นางทิชา ณ นคร หรือ ป้ามล ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “Thicha Nanakorn” ถึงประเด็นการต้องยุติการทำหน้าที่ ผอ.บ้านกาญจนาภิเษก โดยสรุปใจความได้ว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 กองทรัพยากรบุคคลกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน แจ้งว่า งบประมาณ 2568 ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กและเยาวชน จะถูกตัด หรือยุติการทำหน้าที่ ผอ.บ้านกาญจนาภิเษก ทำให้มีสุ้มเสียงเตือนว่ามาจากสาเหตุที่ตนเองวิจารณ์หนักเรื่องการเมือง ข้องเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 และวิจารณ์การทำงานของราชการมากเกินไปนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริงจาก พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ว่า สำหรับสาเหตุที่มีการตัดงบเกิดขึ้นนั้น เนื่องมาจากครบวาระสัญญา 5 ปี และนางทิชาก็นั่งดำรงตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก มาต่อเนื่อง จึงทำให้สำนักงาน ก.พ. ต้องมีการพิจารณา เพราะ ก.พ. มีนโยบายที่จะลดอัตราจำนวนคน หรือปรับตำแหน่ง โดยที่กรอบหรือเกณฑ์นั้น กรมพินิจฯ ไม่ได้เป็นผู้กำหนด แต่ต้องปฏิบัติในส่วนของเนื้อหาตามนโยบายของ ก.พ. อีกทั้งกรมพินิจฯ ก็จะต้องมีการประเมินผลการรับราชการของผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ในทุกมิติ เพราะเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจใด ๆ ก็ต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติงานว่าการแก้ไขปัญหาเด็กกระทำความผิด หรือเด็กก้าวพลาดของบ้านกาญจนาฯ ตอบโจทย์กับงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้เต็ม 100% หรือไม่ เพราะบ้านกาญจนาฯ เป็นสถาบันของเอกชนที่รับงบประมาณจากรัฐตกปีละ 8,000,000 บาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โปรแกรมการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กไม่ให้กลับไปกระทำความผิดซ้ำ เป็นต้น ส่วนหลังจากนี้จะมีการให้นางทิชา ต่อสัญญาหรือไม่ หรือจะหาผู้อื่นมาทำหน้าที่แทนหรือไม่ ขณะนี้ยังต้องหารือประชุมร่วมกันของคณะกรรมการ เนื่องด้วยต้องดูองค์ประกอบหลายประการ ทั้งนโยบายของสำนักงาน ก.พ. และผลประเมินของการปฏิบัติงานในอดีตทั้งหมด

เมื่อถามว่า การปรับลดหรือตัดงบตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก มีสาเหตุเนื่องมาจากจุดยืนทางการเมือง หรือการวิพากษ์ในคดีอาญามาตรา 112 ของเจ้าตัวหรือไม่ เพราะสังคมตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องนี้ พ.ต.ท.ประวุธ แจงว่า ในส่วนนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาในส่วนของคณะกรรมการเช่นเดียวกัน เพราะการประเมินการปฏิบัติงานของตำแหน่งดังกล่าว เราต้องนำทุกประเด็นมาวิเคราะห์ให้ได้ข้อเท็จจริงที่สุด ทั้งนี้ นางทิชา จะครบสัญญาในการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ หรือครบปีงบประมาณ อย่างไรก็ตาม หากจะต้องหาผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน บ้านกาญจนาฯ แทนนางทิชา กรมพินิจฯ ก็สามารถจัดสรรบุคลากรภายในหน่วยงานของกรมพินิจฯ มาทำหน้าที่ก่อนได้ โดยต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการต้นหรือสูงกว่านั้น

อีกทั้งจะต้องมีการประชุมของคณะผู้บริหารภายในกรมพินิจฯ ว่าจะปรับบทบาทของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน บ้านกาญจนาฯ เป็นอย่างไรต่อไปหรือไม่ เพราะเดิมทีกรมพินิจฯ มีบ้านหลายหลังภายในการกำกับที่เข้ามาช่วยรองรับและดูแลเด็กก้าวพลาด แต่ส่วนในของบ้านกาญจนาฯ เป็นสถาบันของเอกชนที่ให้เข้ามาบริหารภายใต้งบประมาณของรัฐ 100% จึงทำให้บ้านกาญจนาฯ ต้องถูกประเมินผลการดำเนินงานว่าได้ผลลัพธ์มากน้อยเพียงใด ขณะที่บ้านที่ดูแลเด็กก้าวพลาดที่เป็นของเอกชนก็มีหลายแห่งที่ใช้งบของเขาเอง แต่ได้ขอรับเด็กก้าวพลาดของกรมพินิจฯ ไปช่วยดูแล บำบัด ฟื้นฟู เเละเมื่อเราได้ไปดูกระบวนการบริหารงานของบ้านเหล่านั้น ทำให้เห็นว่ามีประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนจริง เราจึงยินดีส่งเด็ก ๆ ไปรับการดูแลภายใต้คำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัว โดยที่กรมพินิจฯ จะไม่เข้าไปแทรกแซงการดำเนินงานใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการไปประเมิน แต่ต้องดูว่าผลของการบำบัด ฟื้นฟู ดูแลเด็กได้ผลหรือไม่ ถ้าไม่ได้ผล กรมพินิจฯ ก็แค่ยุติบทบาทที่จะส่งเด็กของเราเข้าไปรับการดูแลที่นั่นเเทน

ต่อข้อถามว่า หากคณะกรรมการของกรมพินิจฯ ได้มีการประชุมเสร็จสิ้นและผลสรุปว่าการดำเนินงานของบ้านกาญจนาฯ ไม่ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาเด็กก้าวพลาดกระทำผิดซ้ำ อาจจะไม่ได้เรียกว่าเป็นการลอยแพ แต่อาจไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณของรัฐ หรือบุคลากรของกรมพินิจฯ ไปทำหน้าที่อีกแล้วใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวว่า การเป็นเอกชนจะสามารถดำเนินการได้ทุกอย่างทันทีโดยไม่มีข้อจำกัดใด จะไปบริหารดำเนินการอย่างไรก็เป็นไปตามวงเงินงบประมาณของสถาบันเอง ส่วนกรมพินิจฯ จะยังขอศาลเยาวชนและครอบครัว ให้มีคำสั่งให้เด็กในความดูแลของกรมฯ ไปอยู่ในบ้านกาญจนาฯ เหมือนเดิมหรือไม่นั้น ก็คงจะต้องดูแนวทางการบริหารของบ้านกาญจนาฯ เมื่อถึงวันนั้นก่อน ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนหรือไม่ เรายึดตรงนี้เป็นหลักสำคัญ ไม่ได้ยึดประโยชน์ส่วนบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนการประเมินว่านางทิชา ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการแก้ไขปัญหาเด็กก้าวพลาดกระทำผิดซ้ำหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างคณะกรรมการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบร่วมกัน และจะต้องประเมินผู้บริหารบุคลากรทั้งหมดของบ้านกาญจนาฯ ภายในช่วงสิ้นเดือน ก.ย. นอกจากนี้ นางทิชา ยังไม่ได้มีการส่งหนังสือชี้แจงขอความเป็นธรรมมายังกรมพินิจฯ แต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าเป็นสิทธิที่สามารถอุทธรณ์ได้.